การเลือกอุปกรณ์สนาม |
ในการเที่ยวป่าเขาลำเนาไพร การเลือกซื้ออุปกรณ์สนามเหมาะๆสักอย่าง ไม่ใช่เรื่องง่าย หลักเกณฑ์ที่เราควรพิจารณามีอะไรบ้าง
ประสบการณ์ ความต้องการใช้งานอุปกรณ์ บางคนต้องการแบบดี สะดวกสบาย แต่บางคนชอบแบบกะทัดรัด
ประเภทของการเดินทาง เช่น ถ้าเดินป่าก็ต้องการแบบเล็ก พกสะดวก ส่วนแคมป์คาร์ก็ต้องการแบบสะดวกสบาย
รสนิยม
อุปนิสัยส่วนตัว เช่น บางคนชอบสบาย บางคนชอบแบบลุยๆ
หลักเกณฑ์การพิจารณาแบบง่ายๆ
เลือกอุปกรณ์ที่คงทน บึกบึน แข็งแรง ไม่ชำรุดง่าย ซ่อมได้และซ่อมง่าย หรือมีประกัน อุปกรณ์ที่เล็กกระทัดรัดเบามือ แต่ใช้ไม่กี่ครั้งก็พังเสียแล้วย่อมไม่ดีแน่ๆ
ขนาดของอุปกรณ์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความเหมาะสมในการใช้งานเป็นเรื่องที่พึงสังวร ไม่ควรใช้เตาสนามเล็กๆ หุงข้าวสำหรับคนเป็นสิบในครั้งเดียว นอกจากจะสิ้นเปลืองทั้งพลังงานและเวลาแล้ว อาจจะเกิดอาการโมโหหิว
เลือกอุปกรณ์ที่ถูกตาถูกใจ คือรู้สึกว่าชอบ แต่ไม่ควรคาดหวังว่าอุปกรณ์ที่ซื้อจะรับใช้คุณได้นานหลายปี ของประเภทนี้ย่อมจะชำรุดได้ตามการใช้งาน แต่ก็ไม่ควรจะพังก่อนกำหนด ควรกะเวลาใช้งานแบบธรรมดาๆสัก2-3 ปี ถึง 5 ปี แต่ถ้ามากกว่านี้ก็เป็นกำไรล่ะครับ
ต้องทราบว่าอุปกรณ์ที่คุณจะซื้อมีการทำงานอย่างไร ดูแลรักษาอย่างไร ใช้งานง่ายหรือไม่ วิธีง่ายๆก็คือการสังเกตุจากเต็นท์ข้างๆ หยิบยืมเพื่อนฝูงมาลองใช้ก่อน หรือสอบถามจากผู้ขายโดยตรง
ขนาดต้องพอเหมาะกับตัวเราเอง เช่น เป็นคนตัวเล็กแต่แบกเป้ 70 ลิตร หรือสูงใหญ่กำยำแต่สะพายเป้ใบเล็กเหมือนลูกเสือสำรอง, เดินป่า 2-3 คน แต่แบกถังแก๊สปิคนิคไปด้วย ย่อมไม่เหมาะแน่ๆ
เลือกอุปกรณ์เท่าที่จำเป็นจริง จะลดสัมภาระที่ต้องแบกไปได้มาก แต่ถ้าเต็มใจแบกหรือมีลูกหาบก็ไม่เป็นไร และไม่ต้องเอาของไปเผื่อเต็นท์ข้างๆ เพราะเค้าก็อาจจะมีมากเกินพออยู่แล้ว
ราคา
ของดีราคาถูกไม่มีในโลก แต่ของที่คุณภาพเหมาะสมกับราคานั่นมีอยู่จริง ของที่ราคาแพงไม่ได้ดีไปกว่าของราคาถูกเสมอไป ฉะนั้นก่อนซื้อควรจะมีข้อมูลด้านราคาก่อน ถ้าเป็นไปได้ก็น่าจะเดินดูหลายๆร้าน ราคาจะไม่เท่ากัน (เท่าที่พบ) บางร้านอาจจะรวมค่าแอร์คอนดิชั่นกับเสื้อสายเดี่ยวเข้าไปด้วย จะให้ดีควรมีที่ปรึกษาที่มีความรู้ไปด้วยสักคน ไม่ต้องรีบครับ ของพวกนี้ราคาค่อนข้างสูงจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
การซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงจะได้ราคาถูกกว่าท้องตลาด แต่อาจจะหาผู้ผลิตยากสักหน่อย การซื้ออุปกรณ์มือสองเป็นต้นไป ค่อนข้างจะเสี่ยงต่อการชำรุด ควรตรวจสอบให้ดี ถ้าเป็นไปได้ควรให้เค้าสาธิตการใช้งานให้ดู อย่ารีบตะครุบเพียงเพราะเห็นว่าขายถูกเป็นอุนจิ
น้ำหนัก
อุปกรณ์สนามในปัจจุบันถูกผลิตมาค่อนข้างเบา หยิบฉวยง่ายเบามือ ใช้ง่าย แต่ก็นั่นแหละครับ ราคาก็แพงขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่างเตาน้ำมัน บางรุ่นของ MSR วางขายบ้านเราตั้ง 6-7 พันบาท ทั้งๆที่อยู่เมืองนอก 6-70 เหรียญเท่านั้น ถ้าจะซื้อก็ต้องคิดหลายตลบหน่อย แต่เล็กเบาจริงใส่กระเป๋ากางเกงยังไหว
เมื่อน้ำหนักเบาตามต้องการ เรามาดูที่ความแข็งแรงด้วย เช่น เสาเต็นท์ ความหนาของผ้าใบ วัสดุที่ใช้ทำถุงนอน เป็นต้น ถุงนอนรุ่นบางจ๋อยของร้านกูปรี พับแล้วโตกว่ากำปั้นนิดหน่อย ราคา 500 บาท แต่อุ่นดี ย่อมจะไม่นุ่มหนาสบายหลังอย่างถุงนอนขนเป็ดขนห่านราคาครึ่งหมื่นแน่นอน ต้องดูลักษณะการใช้งานด้วย
สรุปก็คือเอาชนิดที่ใช้สะดวก ถ้าน้ำหนักเบาก็จะได้เอาไปได้หลายๆอย่าง บางอย่างก็ต้องยอมแบกน้ำหนัก ถ้าหากอุปกรณ์ชิ้นนั้นดีจริง
แล้วเท่าไหร่ถึงจะพอ?
ก็เอาเท่าที่คิดว่าจะได้ใช้งานครับ ที่ไม่ได้ใช้งานก็ไม่ต้องซื้อให้เปลืองเงิน และไม่ต้องแบกให้เมื่อย ของบางอย่างอาจจะใช้แทนกันได้ เช่น เครื่องครัวต่างๆ มีดพกมีดพับ เป็นต้น
สรุปเลยล่ะกันครับ
สะดวก ปลอดภัย ใช้งานได้จริง ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ ดูแลรักษาง่าย
สนับสนุนข้อมูลจาก www.thaiwildlife.com