ไปหน้ารวม เวบบอร์ด :
http://www.4x4.in.th/vision14/webboard.php?category=viewall
แผงหน้าปัดและอุปกรณ์ควบคุม | |
1.
กล่องเก็บของ 2. ปุ่มโช๊ค 3. ที่เขี่ยบุหรี่ 4. มาตรวัดความเร็ว 5. มาตรวัดระดับน้ำมันเชื่อเพลิง 6. มาตรวัดอุณหภูมิความร้อน |
7.
สวิทช์ไฟใหญ่ /
สวิทช์ไฟเลี้ยว /
สวิทช์ไฟหรี่ 8. กุญแจสตาร์ท 9. สวิทช์ไฟกระพริบฉุกเฉิน 10. สวิทช์ปัดน้ำฝนกระจกหน้าและฉีดน้ำล้างกระจก 11. ช่องลมแอร์ |
มาตรวัดความเร็ว - มาตรวัดความเร็วเป็น กม./ชม. - เลขบอกระยะทาง จะบันทึกระยะทางทั้งหมดที่รถวิ่งไปได้ - เลขบอกระยะการเดินทาง ซึ่งสามารถปรับได้ จะแสดงระยะทางในการเดินทางแต่ละครั้งโดยกดปุ่มปรับตั้ง |
ข้อควรระวัง
|
มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อบิดสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง "ON" เข็มวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงจะชี้บอกปริมาณเชื้อเพลิงในถัง เข็มวัดชี้ที่ "F" หมายถึงน้ำมันเต็มถัง ชี้ที่ "E" หมายถึงน้ำมันหมด มาตรวัดอุณหภูมิความร้อน มาตรวัดอุณหภูมินี้ จะแสดงอุณหภูมิของระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์ เมื่อบิดสวิทช์กุญแจสตาร์ทไปที่ตำแหน่ง "ON" หากขับรถในสภาวะปกติเข็มนี้จะอยู่ในเส้นกลางระหว่าง "H และ C" ถ้าหากเข็มชี้ไปทางเส้น "H" ขึ้นไป แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนจนเกินไป |
ข้อควรระวัง อย่าขับรถต่อไป หากเครื่องยนต์ร้อนจัดเกินไป (OVERHEAT) |
ไฟสัญญาณและไฟเตือน
ไฟสัญญาณความดันน้ำมันเครื่อง (1) ไฟนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อหมุนกุญแจสตาร์ทไปที่ "ON" และจะดับเมื่อเครื่องยนต์ติด อย่างไรก็ตามมันจะปรากฏขึ้นอยู่หากระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ผิดปกติ ถ้าเป็นเช่นนี้ให้รีบนำรถไปปรึกษาศูนย์บริการซูซูกิ ทันที่ ไฟสัญญาณไฟชาร์จ (2) ไฟนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อหมุนกุญแจสตาร์ทไปที่ "ON" และจะดับเมื่อเครื่องยนต์ติด หากไฟยังปรากฏขึ้นอยู่ แสดงว่ามีความผิดปกติในระบบชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้รีบนำรถไปปรึกษาศูนย์บริการซูซูกิทันที่ |
สัญญาณไฟเลี้ยว
ตามรูปหมายเลข (4) และ (5) ไฟสัญญาณนี้จะกระพริบพร้อมกันกับไฟเลี้ยว เมื่อผลักคันสวิทช์ขึ้น ไฟสัญญาณจะกระพริบด้านซ้าย (ตามหมายเลข 4) ไฟเลี้ยวซ้ายจะทำงาน และเมื่อผลักคันสวิทช์ลง ไฟสัญญาณจะกระพริบที่ด้านขวา (ตามหมายเลข 5) ไฟเลี้ยวขวาจะทำงาน ไฟสัญญาณขับเคลื่อน 4 ล้อ หมายเลข (6) เมื่อกุญแจสตาร์ทอยู่ในตำแหน่ง "ON" ไฟสัญญาณจะแสดงคำว่า "4WD" หากเกียร์ช่วย (เกียร์สโลว์) อยู่ในตำแหน่ง 4H หรือ 4L สัญญาณไฟสูงหมายเลข (7) เมื่อบิดกุญแจสวิทช์ไปที่ตำแหน่ง ON สัญญาณนี้จะปรากฏบนหน้าปัด เมื่อไฟอยู่ในตำแหน่งไฟสูง และจะหายไปเมื่อปรับตำแหน่งไฟใหญ่ไปอยู่ที่ไฟต่ำ |
กุญแจาตาร์ท LOCK ในการจอดปกติ
อุปกรณ์ต่างๆ
และเครื่องยนต์จะไม่ทำงาน
ถ้าดึงกุญแจสตาร์ท ACC ถ้าบิดกุญแจสตาร์ทไปในตำแหน่งนี้เครื่องยนต์จะยังไม่ทำงาน แต่อุปกรณ์บางอย่างอาจทำงานได้ ON เป็นตำแหน่งที่เครื่องยนต์พร้อมที่จะทำงาน START เป็นตำแหน่งเริ่มต้นสตาร์ทเครื่องยนต์
กุญแจควรจะถูกปล่อยจากตำแหน่งนี้ |
ข้อควรระวัง 1.
อย่าสตาร์ทรถจนทำให้สตาร์ทเตอร์หมุนต่อเนื่องกันเกิน
5 วินาที
ถ้าเครื่องยนต์ไม่ติดหลังจากพยายามสตาร์ทใหม่
ให้ลองเช็คระบบน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบจุดระเบิด
หรือปรึกษาศูนย์บริการรถยนต์
ซูซูกิ |
สวิทช์ควบคุมไฟส่องสว่าง ก้านสวิทช์จะอยู่ด้านขวาของแกนพวงมาลัย
มีการทำงาน 3 ตำแหน่งคือ |
|
|
สวิทช์ปัดน้ำฝนและฉีดน้ำล้างกระจก เมื่อท่านต้องการฉีดน้ำล้างกระจก และใช้ใบปัดน้ำฝนบนหน้ากระจกหน้าให้ปฏิบัติดังนี้ 1. บิดก้านสวิทช์ให้อยู่ในตำแหน่ง "LO" ใบปัดน้ำฝนจะทำงานในจังหวะช้า ถ้าบิดไปในตำแหน่ง "HI" ใบปัดน้ำฝนจะทำงานในจังหวะเร็ว, ถ้าอยู่ในตำแหน่ง "INT" จะเป็นจังหวะปัดแล้วหยุดเป็นระยะๆ 2. เมื่อต้องการน้ำฉีดกระจกหน้า ให้ดึงก้านสวิทช์เข้าหาตัว |
ข้อควรระวัง 1. เมื่อกดก้านสวิทช์ฉีดน้ำกระจกแล้วน้ำไม่ออก จะต้องหยุดทันที่ เพราะอาจจะทำให้มอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกเสียหายได้ 2. อย่าใช้ใบปัดน้ำฝนปัดหน้ากระจกในขณะที่กระจกไม่เปียกน้ำ เพราะอาจมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่บนกระจกที่แห้ง ซึ่งจะทำให้กระจกและใบปัดน้ำฝนเสียหายได้ |
สวิทช์ไฟกระพริบฉุกเฉิน เมื่อดึงสวิทช์นี้ ไฟสัญญาณเลี้ยวจะกระพริบ ทำงานทุกดวง เพื่อเตือนผู้ขับรถหรือคนเดินเท้าอื่นๆ ให้รู้ว่า รถของท่านเสียหรือต้องจอดด้วยกรณีฉุกเฉิน แตร แตรจะดังเมื่อท่านกดฝาแตร ซึ่งอยู่บนพวงมาลัย |
ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารจะมี 3 ตำแหน่ง คือ 1.
ไฟจะสว่างตลอดเวลา
ไม่ว่าประตูจะเปิดหรือปิดก็ตาม ปุ่มโช็ค ใช้ช่วยในการสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์เย็น |
กล่องเก็บของด้านหน้า สามารถล็อคได้โดยใช้กุญแจสตาร์ท ที่เขี่ยบุหรี่ แผงบังแดด |
คันเบรคมือ เมื่อจอดรถทุกครั้งจะต้องดึงคันเบรคมือขึ้น คันเบรคมือเมื่อถูกดึงขึ้นจะล็อคเพลากลางไว้ และเมื่อต้องการปลดเบรคมือ ให้ดึงคันเบรคมือขึ้นเล็กน้อย แล้วจึงกดปุ่มด้านหน้าเข้า แล้วลดคันเบรคมือลงจนสุด |
ข้อควรระวัง
|
แป้นเหยียบขาคลัช
ขาเบรค ขาคันเร่ง 1. แป้นขาคลัช 2. แป้นขาเบรค 3.
แป้นขาคันเร่ง |
ข้อควรระวัง อย่าขับรถโดยที่ท่านยังวางเท้าอยู่บนแป้นขาคลัช ซึ่งอาจทำให้แผ่นคลัชสึกหรือเสียหาย |
คันเกียร์ รถของท่านจะมี 5 เกียร์เดินหน้า และ 1 เกียร์ ถอยหลัง ตำแหน่งของเกียร์ต่างๆ จะแสดงไว้ตามรูป |
ข้อสังเกตุ ท่านจะไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ที่ 5 มาเป็นถอยหลังได้โดยตรง ท่านจะต้องเข้าเกียร์ว่างก่อน แล้วจึงจะเข้าเกียร์ถอยหลังได้ |
คันเกียร์ช่วย
(เกียร์สโลว์) 2H : ขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเร็ว เป็นตำแหน่งที่ควรใช้งานปกติ บนสภาพถนนที่แห้งและแข็ง 4H : ขับเคลื่อน 4 ล้อเร็ว เป็นตำแหน่งที่ควรใช้เมื่อต้องการกำลังที่สูงกว่า การขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อ ให้ใช้ขับเคลื่อน 4 ล้อเร็วในสภาพที่ลื่นไถล เปียก มีหิมะ ที่เป็นโคลนตม ฯลฯ หรือตามสภาพภูมิประเทศที่ไม่ใช่ถนนปกติ 4L : ขับเคลื่อน 4 ล้อช้า ใช้ขับตามภูเขาที่ลาดชัน หรือขับตามภูมิประเทศทุรกันดาร |
เมื่อท่านจะใส่เกียร์ช่วย ให้เหยียบแป้นขาคลัชลงไปให้สุด ถ้าเกียร์ช่วยใส่ยาก ให้พยายามเหยียบคลัชอีกครั้ง หรือให้เคลื่อนรถไปช้าๆ แล้วพยายามใส่เกียร์ช่วยอีกครั้ง |
ข้อควรระวัง เพื่อป้องกันเกียร์ช่วยไม่ให้เสียหาย ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างล่างนี้
|
FREE - WHEELING HUBS (อุปกรณ์ติดตั้งพิเศษ)
Free Wheel Hub ทำหน้าที่ตัดการขับเคลื่อนของเพลาหน้า ดังนั้นชิ้นส่วนของเพลาหน้า และเฟืองท้ายหน้าจะไม่หมุนตาม เมื่อต้องการขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ฃึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ลดเสียงดัง และลดการสึกหลอของเพลาหน้า, เฟืองท้ายหน้า เมื่อใช้เกียร์ช่วยในตำแหน่ง 2H จะต้องเลื่อนตำแหน่ง free wheel hub ไปที่ "FREE" ทั้ง 2 ข้าง และเมื่อใช้เกียร์ช่วยในตำแหน่ง 4H หรือ 4L เพื่อขับเคลื่อน 4 ล้อ จะต้องเลื่อนตำแหน่ง free wheel hub ไปที่ตำแหน่ง "LOCK" ทั้ง 2 ข้างเช่นกัน |
ข้อสังเกต
|
ข้อควรระวัง
|