ไปหน้ารวม เวบบอร์ด :
http://www.4x4.in.th/vision14/webboard.php?category=viewall
การตรวจสอบและการบำรุงรักษา
การป้องกันอุบัติเหตุขณะที่ท่านซ่อมหรือเกี่ยวข้องกับรถของท่าน ต้องใช้ความระมัดระวังเอาใจใส่อย่างยิ่ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นข้อควรระวะงเป็นพิเศษ
ตรวจสอบแผงหน้าปัด
บิดกุญแจสตาร์ทไปที่ตำแหน่ง
"ON"
ตรวจสอบสัญญาณไฟต่างๆ
ว่าติดหรือไม่ตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานตามปกติหลังจากสตาร์ทเครื่องแล้ว
ตรวจสอบไฟชาร์จและมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น
หลังจากขับรถไปแล้ว
ให้ตรวจสอบมาตรวัดความเร็วว่าทำงานถูกต้องตามปกติ
ตรวจสอบระบบไฟต่าง
ๆ
เปิดสวิทช์ต่างๆ
เพื่อตรวจสอบไฟใหญ่,
ไฟหรี่ และไฟอื่นๆ
ว่าติดหรือไม่
ทดลองเหยียบแป้นขาเบรคเพื่อตรวจสอบว่าสัญญาณไฟเบรคท้ายรถทำงาน
เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง
"R" (Reverse)
เพื่อตรวจสอบว่าไฟสัญญาณถอยหลังทำงาน
แตร,
สัญญาณไฟเลี้ยว,
ปัดน้ำฝน, น้ำฉีดกระจก
ตรวจสอบแตร,
สัญญาณไฟเลี้ยว,
ที่ปัดน้ำฝน,
ระบบฉีดน้ำกระจก
ทำงานตามปกติ
ตรวจสอบน้ำมันเชื่อเพลิง
ตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีน้ำมันเชื้อเพลิงพอเพียงสำหรับการเดินทาง
ตรวจสอบการล็อคของประตู
ตรวจสอบว่าระบบล็อคของประตูถูกต้อง
ตรวจสอบกระจกมองหลัง
ตรวจสอบว่าตำแหน่งของกระจกมองหลังอยู่ในตำแหน่งถูกต้อง
ตรวจสอบแสงสะท้อนและป้านทะเบียน
ตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนว่าถูกยึดไว้ในสภาพเรียบร้อยไม่สกปรกและชำรุด
หมายเลขทะเบียนอ่านได้ชัดเจน
ตรวจสอบระบบท่อไอเสีย
หากตรวจพบว่าควันจากท่อไอเสียขาว
หรือดำจนเกินไป
จะต้องนำรถไปให้ศูนย์บริการของบริษัทฯ
ทำการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม
ควันท่อไอเสียอาจจะเป็นสีขาวได้ในวันที่อากาศเย็น
ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เพราะว่าเมื่อก๊าซจากท่อไอเสียซึ่งมีละอองน้ำปนอยู่จะกลายเป็นหมอกบางๆ
ข้อควรระวัง หากท่านรู้สึกว่ารถมีอาการผิดปกติ ซึ่งท่านไม่สามารถซ่อมได้ด้วยตนเอง อย่าอยู่นิ่งเฉยให้รีบนำรถไปให้ศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ ตรวจสอบและแก้ไข |
สายพานพัดลม หากสายพานพัดลมหย่อนเกินไป จะเป็นเหตุให้เกิดปัญหาการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ เครื่องยนต์อาจจะร้อนเกินกำหนด (Overheat) หรือสายพานจะสึกหรอเร็วกว่าปกติ ความตึงของสายพานที่ถูกต้องควรจะเป็น 10-15 มม. เมื่อเราใช้หัวแม่มือกดลงไปตรงกลางระหว่างพูเลย์ (Pulley) ต้องมีการตรวจตราบ่อยๆ ว่าสายพานไม่มีรอยขาดหรือชำรุด การปรับหรือเปลี่ยนสานพานมีขั้นตอนดังนี้ 1.คลาย ฺBolt 3 ตัว ซึ่งยึดไดชาร์จ (Alternator) 2.การปรับสายพาน ดันสายพานให้ตึงโดยกดไดชาร์จ (Alternator) ออกไปและปรับความตึงให้ได้ตามที่อธิบายแล้วจึงขัน Bolt 3ตัวให้แน่น 3.การเปลี่ยนสานพาน คลาย Bolt 3 ตัว แล้วผลักไดชาร์จ (Alternator) เข้ามาด้านในก็สามารถเปลี่ยนสานพานได้ เมื่อเปลี่ยนแล้วก็ให้ปรับความตึงของสายพานตามข้อ 2 |
ข้อสังเกต เมื่อเปลี่ยนสายพานใหม่ ให้ปรับความตึงมากกว่าปกติเล็กน้อยเผื่อการยืดตัวในระยะแรก ค่าความตึงครั้งแรก 8-10 มม. (0.3 - 0.4 นิ้ว) โดยใช้หัวแม่มือกด |
น้ำมันเครื่อง
สเปคน้ำมันเครื่อง
ควรแน่ใจว่าได้ใช้น้ำมันเครื่องตามสเปก
API เกรด SE,SD,SF
เลือกตามความหนืดของน้ำมันเครื่องให้สอดคล้องตามชาร์ทข้างบนนี้
การตรวจสอบน้ำมันเครื่อง เมื่อจะวัดระดับน้ำมันเครื่อง จะต้องให้รถจอดอยู่ในแนวราบ หากรถไม่อยู่ในแนวราบอาจจะทำให้การอ่านระดับน้ำมันเครื่องผิดพลาดได้ การวัดระดับน้ำมันเครื่องจะต้องวัดก่อนติดเครื่องยนต์ หรือหลังดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 2-3 นาที ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำมันให้หมดแล้วเสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องลงไปใหม่ และดึงขึ้นมาอีกครั้ง ระดับน้ำมันที่ถูกต้องจะต้องอยู่ระหว่างขีดต่ำสุดและขีดสูงสุด หากอยู่ใกล้ขีดต่ำสุด ให้เติมน้ำมันเครื่องจนถึงระดับสูงสุด |
|
การเติมน้ำมันเครื่อง เปิดฝาน้ำมันเครื่องแล้วเทน้ำมันเครื่องลงไปอย่างช้าๆ โดยระมัดระวังอย่าให้น้ำมันมากเกินไป การเติมน้ำมันมากเกินไปหรือน้อยเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์เสียหาย หลังจากเติมน้ำมันเครื่องแล้ว ให้ติดเครื่องยนต์และปล่อยให้เครื่องยนต์เดินประมาณ 1 นาที ดับเครื่องยนต์รอประมาณ 2-3 นาที แล้วตรวจระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัด |
|
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
|
คำเตือน อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องอาจจะยังสูง ซึ่งจะทำให้ลวกมือของท่านได้ ขณะที่คลาย Drain Plug ให้รอจน Drain Plug เย็นพอที่จะจับด้วยมือเปล่าได้ |
การเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง
|
ข้อควรระวัง เพื่อป้องกันน้ำมันรั่ว โปรดตรวจสอบให้มั่นใจว่า ได้ขันไส้กรองน้ำมันเครื่องจนแน่นพอดี แต่มิใช้แน่นจนเกินไป |
|
ข้อควรระวัง
|
น้ำมันเกียร์ เกียร์ส่งกำลัง, เกียร์ช่วย (เกียร์สโลว์) และเกียรเฟื่องท้าย จะถูกหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์ เมื่อท่านจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ในระบบใดระบบหนึ่งของทั้ง 3 อย่างดังกล่าวข้างต้น ให้ดำเนินการดังนี้
ตามรูป |
ข้อสังเกต เมื่อขันปลั๊กถ่ายน้ำมันหรือปลั๊กสำหรับเติมน้ำมัน จะต้องใช้ซีล "Suzuki bond No 1215 หรือของที่เหมือนกัน ทาที่เกลียวเพื่อกันรั่ว |
การเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย
(หน้าและหลัง)
น้ำมันเฟืองท้ายที่ใช้ต้องเป็น
"hypoid gear oil" NO SAE 90
|
ไส้กรองอากาศ หากไส้กรองอากาศเต็มไปด้วยฝุ่น จะทำให้การดูดลมเข้ายากขึ้น เป็นเหตุให้รถกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ควรตรวจสอบและทำความสะอาดไส้กรองอากาศเป็นระยะตามขั้นตอนต่อไปนี้ 1.ปลดแคมป์, ถอดฝาไส้กรองอากาศออก แล้วดึงเอาไส้กรองอากาศออกมา 2.ไส้กรองอากาศนี้เป็นแบบแห้ง จงจำไว้เสมอว่าจำเป็นต้องทำความสะอาดเป็นระยะตามวิธีต่อไปนี้ 3.เป่าเอาขี้ฝุ่นออกจากไส้กรองอากาศ โดยใช้ลมที่มีความดันสูง
|
ข้อสังเกต เปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ทุก 40,000 กม. และเปลี่ยนบ่อยขึ้น หากใช้บนถนนที่มีฝุ่นมาก |
หัวเทียน หัวเทียนมาตรฐานสำหรับรถ SJ413W คือหัวเทียน NGK BP 5 ES หรือนิปปอนเด็นโซ่ W16EX-U เมื่อมีเขม่าจับสะสมอยู่ที่หัวเทียน ความร้อนและการจุดระเบิดอาจไม่สมบูรณ์ ให้ใช้ลวดหรือเข็มแคะเอาเขม่าออก และปรับระยะเขี้ยวหัวเทียนให้อยู่ระหว่าง 0.7-0.8 มม. (0.028-0.031 นิ้ว) |
ข้อควรระวัง เมื่อจะใส่หัวเทียน ให้หมุนด้วยมือก่อนเพื่อป้องกันเกลียวเสีย แล้วจึงหมุนด้วยประแจปอนด์ให้ได้ 25.0-30.0 นิวตั้นเมตร (2.5-3.0 กก./เมตร หรือ 18.0-22.0 ฟุต/ปอนด์) หากจะใช้หัวเทียนตราอื่นนอกจาก NGK หรือ ND ให้ปรึกษาศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ |
พวงมาลัย ตรวจสอบระยะฟรีของพวงมาลัย โดยหมุนพวงมาลัยจากซ้ายไปขวาอย่าง ๆ ระยะฟรีของพวงมาลัยจะต้องต่ำกว่า 15 มม. วัดตามเส้นรอบวงของพวงมาลัย เมื่อขับรถอย่างช้าๆ ให้หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบว่าการหมุนพวงมาลัยเบา และเป็นไปด้วยความคล่องตัว หากมีอะไรผิดปกติ ต้องส่งรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ |
|
แป้นขาคลัช ระยะฟรีของแป้นขาคลัช จะต้องอยู่ระหว่าง 15-25 มม. (0.6-1.0 นิ้ว) หากระยะฟรีมากกว่าหรือต่ำกว่าค่าดังกล่าว หรือหากพบว่าแป้นขาคลัชผิดปกติ ให้ติดต่อศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบและซ่อมได้ |
|
ระบบเบรค /
น้ำมันเบรค กระปุกน้ำมันเบรคสามารถเห็นได้ชัดเจน เมื่อท่านเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น ให้ตรวจสอบว่าระดับน้ำมันต้องอยู่เหนือขีด "MIN" หากอยู๋ที่ขีด "MIN" หรือใกล้ชิด "MIN" ให้เติมน้ำมันเบรคเพิ่ม โดยใช้สเปค SAE J1703 หรือ DOT 3 |
ข้อควรระวัง 1.น้ำมันเบรคควรเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปี 2.ให้ระมัดระวังทุกครั้ง เมื่อเติมน้ำมันเบรค เพราะน้ำมันเบรคเป็นอันตรายต่อตาและสีของตัวถังรถ |
แป้นขาเบรค ให้ตรวจสอบแป้นขาเบรคว่า เมื่อท่านเหยียบเต็มที่ ระยะประมาณ 30 กก. (60 ปอนด์) ระยะระหว่างแป้นขาเบรคถึงผนังด้านหน้าของขาเบรคจะต้องมีระยะอย่างน้อย 75 มม. (3.0 นิ้ว) ระบบเบรคของรถจะปรับเองโดยอัตโนมัติ จึงไม่จำเป็นต้องปรับขาเบรค อย่างไรก็ตาม หากระยะดังกล่าวผิดปกติไป ขอให้นำรถของท่านไปยังศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขทันที หากพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ จะต้องรีบนำรถของท่านไปยังศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ 1.สมรรถภาพในการหยุดรถไม่ดี 2.การหยุดไม่สม่ำเสมอ (การหยุดกินสี่ล้อไม่เท่ากัน) 3.เบรคต่ำ 4.การหยุดใช้ระยะทางมากกว่าปกติ 5.มีเสียงดังเวลาเบรค 6.แป้นขาเบรคเต้นในขณะที่เหยียบเบรค |
|
เบรคมือ การตั้งคันเบรคมือ ให้ดึงขึ้นและตรวจสอบว่า 2 ล้อหลังถูกล็อคอย่างถูกต้อง โดยคันเบรคมืออยู่ที่คลิ๊กที่ 3-6 หลังจากคลายคันเบรคมือให้อยู่ในตำแหน่งเดิมแล้ว ให้ทดสอบว่ารถสามารถวิ่งได้อย่างปกติ โดยไม่มีอาการจับของเบรคหลัง หากมีอะไรผิดปกติ ให้นำรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ |
ข้อแนะนำในการยกรถ 1.จอดรถในแนวราบซึ่งมีพื้นแข็ง 2.ดึงเบรคมือขึ้นสุด ให้ใช้ไม้หมอนหนุนยางด้านตรงข้ามกับล้อที่ท่านจะยก 3.ตั้งแม่แรงในแนวตั้ง โดยโยกแม่แรงจนหัวแม่แรงสัมผัสแป้นสปริงดังรูป 4.หมุนแม่แรงขึ้นอย่างช้า ๆ จนยางอยู่เหนือพื้น อย่ายกสูงเกินความจำเป็น |
|
คำเตือน 1.ต้องระมัดระวังให้รถถูกยกขึ้นในแนวตั้ง หากแม่แรงเอนไปทางใดทางหนึ่ง ให้ลดแม่แรงลง แล้วปรับแม่แรงใหม่ 2.อย่ายกรถบนพื้นเอียง 3.เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถในระหว่างยกรถ |
ยาง 1.ตรวจสอบความดันของยางด้วยเกย์วัด 2.ตรวจความสึกหรอของยาง โดยร่องยางควรเหลือลึกมากกว่า 1.6 มม. หรือให้สังเกตุจุดหมดอายุดอกยาง (TIREWEAR INDICATOR) ในร่องยาง เมื่อสึกถึงระดับนี้แล้ว หมายความว่าร่องยางจะสึกเหลือ 1.6 มม. หรือน้อยกว่าจะต้องรีบเปลี่ยนยาง 3.หากดอกยางสึกผิดปกติ มีรอยแตก รีบให้ศูนย์บริการตรวจสอบและเปลี่ยนยางใหม่ 4.ให้ตรวจนัทยึดกะทะล้อว่าอยู่ครบ และแน่นได้มาตรฐาน 5.ตรวจสอบว่าไม่มีตะปู เศษหิน เศษขวด หรืออะไรติดอยู่ในยาง |
ข้อควรระวัง การตรวจความดันของยาง ต้องตรวจระหว่างที่ยางอยู่ในสภาพเย็น มาตรฐาน ความดันของยาง
|
การสลับยาง เพื่อหลีกเลี่ยงการสึกหรอไม่สม่ำเสมอ และรักษาอายุของยางให้ใช้ได้ยาวนาน ให้สลับยางตามภาพประกอบ ยางควรได้รับการสลับทุก ๆ 10,000 กม. (6,000 ไมล์) หลังจากสลับยางแล้ว ให้ตรวจสอบความดันยางให้ได้ตามกำหนด (ซึ่งมีบอกไว้ข้างประตูคนขับ) |
ข้อควรระวัง เมื่อเปลี่ยนยาง ขอให้ใช้ขนาดและชนิดยางมาตรฐานเดิม |
การเปลี่ยนยาง ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ 1.เตรียมแม่แรงและยางอะไหล่ 2.คลายน๊อตยึดกะทะล้อแต่อย่าเพิ่งถอดออก 3.ยกรถขึ้น 4.ถอดยางออก 5.ใส่ยางอะไหล่และยึดน๊อต และค่อย ๆ ขันน๊อตจนเข้า หน้าสัมผัสกะทะล้อ 6.เอาแม่แรงออก และขันน๊อตสลับตรงข้ามจนแน่น |
น้ำล้างกระจก ตรวจสอบว่ามีน้ำล้างกระจกอยู่ในกระปุกน้ำล้างกระจกอย่างเพียงพอ หากน้ำล้างกระจกลดไปให้เติมน้ำล้างกระจกให้พอ |
ข้อควรระวัง อย่าเปิดมอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกโดยไม่มีน้ำอยู่ในกระปุก อย่าเติมน้ำยากันน้ำแข็งตัว (Antifreeze) จะทำให้ระบบน้ำฉีดกระจกเสียหายได้ |
แบตเตอรี่ น้ำยาแบตเตอรี่ จะต้องอยู่ระหว่างระดับ "สูงสุด" และ "ต่ำสุด" เสมอการเกิดสนิมที่ขั้วหรือขันไม่แน่น จะทำให้ไฟเดินไม่สะดวก หากเห็นฝุ่นสีขาว ๆ จับที่ขั้ว จะต้องล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วให้ทาจารบีหรือวาสลิน ระมัดระวังอย่าให้น้ำอุ่นเข้าไปในช่องแบตเตอรี่ |
คำเตือน ด้วยแบตเตอรี่จะเกิดสารไฮโดรเจนซึ่งสามารถติดไฟได้ ดังนั้น ต้องอย่าให้แบตเตอรี่อยู่ใกล้ไฟหรือประกายไฟ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้ ในกรณีน้ำยาแบตเตอรี่กระเด็นถูกตา หรือผิวหนัง ให้รีบล้างด้วยน้ำธรรมดาและจัดส่งแพทย์ด่วนที่สุด |
ฟิวส์ มีฟิวส์ 2 ชุด ชุดแรกเป็นฟิวส์หลัก (FUSIBLE LINK) ซึ่งเป็นตัวนำกระแสมาจากแบตเตอรี่โดยตรง อีกชุดหนึ่งเป็นชุดของไฟแต่ละระบบ กล่องฟิวส์ กล่องฟิวส์อยู่ใต้นวมหน้าปัดด้านคนขับ วิธีถอดฟิวส์ให้ถอดฝาฟิวส์ออกก่อน ขนาดแอมป์ของฟิวส์แต่ละตัวสามารถหาได้จากค่าที่แสดงไว้ในฝากล่องฟิวส์ |
ข้อสังเกต การถอดฝาฟิวส์ ให้บีบฝาด้านบนและล่างดังแสดงในรูป |
ข้อควรระวัง การเปลี่ยนฟิวส์ทุกครั้ง ต้องใช้ค่าที่ถูกต้อง อย่าใช้วัสดุอื่นทดแทน เช่นกระดาษอลูมิเนียม หรือลวด หากฟิวส์ขาดบ่อย ๆ แสดงว่ามีปัญหาในระบบไฟฟ้า ขอให้รีบปรึกษาศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ |
การเปลี่ยนหลอดไฟ ข้อควรระวัง การเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย ๆ เป็นเครื่องแสดงว่าจำเป็นต้องมีการตรวจตราระบบไฟฟ้า ขอให้นำรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ |
ไฟในห้องโดยสาร ถอดได้โดยกดฝาเลนซ์ไฟตรงตำแหน่งชี้ สามารถถอดได้ง่าย ๆ โดยการดึงลงมา เมื่อเปลี่ยนหลอดใหม่ ให้แน่ใจว่าหลอดไฟสัมผัสกับสปริงอย่างถูกต้อง |
|
ไฟใหญ่หน้า ให้ถอดฝาครอบพลาสติกออกก่อน ไฟใหญ่สามารถถอดได้ง่าย ๆ โดยหมุนไปทางซ้ายในขณะที่เรากดลงไป ถอดขั้วต่อไฟออกก่อนดึงไฟใหญ่ออกมา อย่ายุ่งกับสกรูตั้งไฟใหญ่ การติดตั้งไฟใหญ่ตัวใหม่สามารถทำได้ในทางกลับกัน |
|
ไฟเลี้ยว,
ไฟหน้า,
ไฟส่องป้ายทะเบียนและไฟถอยหลัง คลายสกรูสองตัวซึ่งยึดเลนซ์ไฟ และถอดออกมา สามารถถอดหลอดไฟโดยกดและหมุนทวนเข็มนาฬิกา เมื่อจะใส่หลอดไฟใหม่ให้ปฏิบัติในทางกลับกัน |