ไปหน้ารวม เวบบอร์ด :
http://www.4x4.in.th/vision14/webboard.php?category=viewall



การตรวจสอบและการบำรุงรักษา

การป้องกันอุบัติเหตุขณะที่ท่านซ่อมหรือเกี่ยวข้องกับรถของท่าน ต้องใช้ความระมัดระวังเอาใจใส่อย่างยิ่ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นข้อควรระวะงเป็นพิเศษ

ตรวจสอบแผงหน้าปัด
บิดกุญแจสตาร์ทไปที่ตำแหน่ง "ON" ตรวจสอบสัญญาณไฟต่างๆ ว่าติดหรือไม่ตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานตามปกติหลังจากสตาร์ทเครื่องแล้ว ตรวจสอบไฟชาร์จและมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น หลังจากขับรถไปแล้ว ให้ตรวจสอบมาตรวัดความเร็วว่าทำงานถูกต้องตามปกติ

ตรวจสอบระบบไฟต่าง ๆ
เปิดสวิทช์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบไฟใหญ่, ไฟหรี่ และไฟอื่นๆ ว่าติดหรือไม่ ทดลองเหยียบแป้นขาเบรคเพื่อตรวจสอบว่าสัญญาณไฟเบรคท้ายรถทำงาน เลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง "R" (Reverse) เพื่อตรวจสอบว่าไฟสัญญาณถอยหลังทำงาน

แตร, สัญญาณไฟเลี้ยว, ปัดน้ำฝน, น้ำฉีดกระจก
ตรวจสอบแตร, สัญญาณไฟเลี้ยว, ที่ปัดน้ำฝน, ระบบฉีดน้ำกระจก ทำงานตามปกติ

ตรวจสอบน้ำมันเชื่อเพลิง
ตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีน้ำมันเชื้อเพลิงพอเพียงสำหรับการเดินทาง

ตรวจสอบการล็อคของประตู
ตรวจสอบว่าระบบล็อคของประตูถูกต้อง

ตรวจสอบกระจกมองหลัง
ตรวจสอบว่าตำแหน่งของกระจกมองหลังอยู่ในตำแหน่งถูกต้อง

ตรวจสอบแสงสะท้อนและป้านทะเบียน
ตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนว่าถูกยึดไว้ในสภาพเรียบร้อยไม่สกปรกและชำรุด หมายเลขทะเบียนอ่านได้ชัดเจน

ตรวจสอบระบบท่อไอเสีย
หากตรวจพบว่าควันจากท่อไอเสียขาว หรือดำจนเกินไป จะต้องนำรถไปให้ศูนย์บริการของบริษัทฯ ทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ควันท่อไอเสียอาจจะเป็นสีขาวได้ในวันที่อากาศเย็น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเมื่อก๊าซจากท่อไอเสียซึ่งมีละอองน้ำปนอยู่จะกลายเป็นหมอกบางๆ

ข้อควรระวัง
หากท่านรู้สึกว่ารถมีอาการผิดปกติ ซึ่งท่านไม่สามารถซ่อมได้ด้วยตนเอง อย่าอยู่นิ่งเฉยให้รีบนำรถไปให้ศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ ตรวจสอบและแก้ไข
สายพานพัดลม
หากสายพานพัดลมหย่อนเกินไป จะเป็นเหตุให้เกิดปัญหาการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ เครื่องยนต์อาจจะร้อนเกินกำหนด (Overheat) หรือสายพานจะสึกหรอเร็วกว่าปกติ ความตึงของสายพานที่ถูกต้องควรจะเป็น 10-15 มม. เมื่อเราใช้หัวแม่มือกดลงไปตรงกลางระหว่างพูเลย์ (Pulley) ต้องมีการตรวจตราบ่อยๆ ว่าสายพานไม่มีรอยขาดหรือชำรุด การปรับหรือเปลี่ยนสานพานมีขั้นตอนดังนี้
1.คลาย ฺBolt 3 ตัว ซึ่งยึดไดชาร์จ (Alternator)
2.การปรับสายพาน ดันสายพานให้ตึงโดยกดไดชาร์จ (Alternator) ออกไปและปรับความตึงให้ได้ตามที่อธิบายแล้วจึงขัน Bolt 3ตัวให้แน่น
3.การเปลี่ยนสานพาน คลาย Bolt 3 ตัว แล้วผลักไดชาร์จ (Alternator) เข้ามาด้านในก็สามารถเปลี่ยนสานพานได้ เมื่อเปลี่ยนแล้วก็ให้ปรับความตึงของสายพานตามข้อ 2
ข้อสังเกต
เมื่อเปลี่ยนสายพานใหม่ ให้ปรับความตึงมากกว่าปกติเล็กน้อยเผื่อการยืดตัวในระยะแรก ค่าความตึงครั้งแรก 8-10 มม. (0.3 - 0.4 นิ้ว) โดยใช้หัวแม่มือกด

น้ำมันเครื่อง

สเปคน้ำมันเครื่อง
ควรแน่ใจว่าได้ใช้น้ำมันเครื่องตามสเปก API เกรด SE,SD,SF เลือกตามความหนืดของน้ำมันเครื่องให้สอดคล้องตามชาร์ทข้างบนนี้

การตรวจสอบน้ำมันเครื่อง
เมื่อจะวัดระดับน้ำมันเครื่อง จะต้องให้รถจอดอยู่ในแนวราบ หากรถไม่อยู่ในแนวราบอาจจะทำให้การอ่านระดับน้ำมันเครื่องผิดพลาดได้ การวัดระดับน้ำมันเครื่องจะต้องวัดก่อนติดเครื่องยนต์ หรือหลังดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 2-3 นาที
ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำมันให้หมดแล้วเสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องลงไปใหม่ และดึงขึ้นมาอีกครั้ง ระดับน้ำมันที่ถูกต้องจะต้องอยู่ระหว่างขีดต่ำสุดและขีดสูงสุด หากอยู่ใกล้ขีดต่ำสุด ให้เติมน้ำมันเครื่องจนถึงระดับสูงสุด
การเติมน้ำมันเครื่อง
เปิดฝาน้ำมันเครื่องแล้วเทน้ำมันเครื่องลงไปอย่างช้าๆ โดยระมัดระวังอย่าให้น้ำมันมากเกินไป การเติมน้ำมันมากเกินไปหรือน้อยเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์เสียหาย หลังจากเติมน้ำมันเครื่องแล้ว ให้ติดเครื่องยนต์และปล่อยให้เครื่องยนต์เดินประมาณ 1 นาที ดับเครื่องยนต์รอประมาณ 2-3 นาที แล้วตรวจระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัด
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
  • เปิดฝาเติมน้ำมันเครื่อง
  • นำถาดมารองใต้เครื่องยนต์
  • ถอดปลั๊กถ่ายน้ำมันเครื่อง (Drain Plug) และปล่อยให้น้ำมันเครื่องไหลออกมาในขณะที่เครื่องยังอุ่น ๆ อยู่
คำเตือน
อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องอาจจะยังสูง ซึ่งจะทำให้ลวกมือของท่านได้ ขณะที่คลาย Drain Plug ให้รอจน Drain Plug เย็นพอที่จะจับด้วยมือเปล่าได้
การเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • ให้ใช้ประแจสำหรับเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องคลายออกทวนเข็มนาฬิกา
  • ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณหน้าสัมผัส ซึ่งติดตั้งไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • ใช้น้ำมันเครื่องชโลมบางๆ บนประเก็นของไส้กรองน้ำมันเครื่องอันใหม่
  • หมุนไส้กรองน้ำมันเครื่องอันใหม่ด้วยมือจนประเก็นสัมผัสหน้าที่ติดตั้งไส้กรองน้ำมันเครื่อง
  • เมื่อขันไส้กรองน้ำมันเครื่องจนถึงจุดสัมผัสแล้ว ให้ขันต่อไปอีก 2/3 รอบ โดยประแจขันไส้กรองน้ำมันเครื่องโดยเฉพาะ
ข้อควรระวัง
เพื่อป้องกันน้ำมันรั่ว โปรดตรวจสอบให้มั่นใจว่า ได้ขันไส้กรองน้ำมันเครื่องจนแน่นพอดี แต่มิใช้แน่นจนเกินไป
  • เติมน้ำมันเครื่องที่ช่องเติม และปิดฝาให้เรียบร้อย
  • เมื่อเดินเครื่องแล้ว ให้ตรวจดูรอยรั่วที่ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และ Drain Plug เดินเครื่องที่ความเร็วต่างๆ ประมาณอย่างน้อย 5 นาที
  • ดับเครื่องและรอสัก 2-3 นาที ตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องอีกครั้ง ถ้าจำเป็นก็ให้เติมน้ำมันเครื่องให้ได้ระดับที่กำหนดไว้ และตรวจสอบรอยรั่วอีกครั้ง
ข้อควรระวัง
  • เมื่อจะเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ให้ใช้ชิ้นส่วนแท้ของซูซูกิ
  • หากมีน้ำมันเครื่องไหลออกมารอบ ๆ ไส้กรองน้ำมันเครื่อง Drain Plug จะแสดงถึงการติดตั้งไม่ถูกต้อง หรือปะเก็นแตก หากท่านพบรอยรั่วใด ๆ หรือสงสัยว่าการยึดไส้กรองน้ำมันเครื่องไม่ถูกต้อง ขอให้นำรถไปที่ศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
  • หากท่านไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น อาจเป็นเหตุทำให้เครื่องยนต์ชำรุดเสียหายอย่างรุนแรงได้
น้ำมันเกียร์
เกียร์ส่งกำลัง, เกียร์ช่วย (เกียร์สโลว์) และเกียรเฟื่องท้าย จะถูกหล่อลื่นด้วยน้ำมันเกียร์ เมื่อท่านจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ในระบบใดระบบหนึ่งของทั้ง 3 อย่างดังกล่าวข้างต้น ให้ดำเนินการดังนี้
  • คลายปลั๊กสำหรับเติมน้ำมันออก
  • ถ่ายน้ำมันออกให้หมด แล้วขันปลั๊กถ่ายน้ำมัน (Drain Plug) เข้าที่เดิม
  • เติมน้ำมันเกียร์ใหม่ลงไปในช่องเติมจนได้ระดับเสมอปากช่องเติม
  • ขันปลั๊กสำหรับเติมเข้าที่เดิม

ตามรูป
1.Oil Filler plug (ปลั๊กเติมน้ำมัน)
2.Oil Drain plug (ปลั๊กถ่ายน้ำมัน)

ข้อสังเกต
เมื่อขันปลั๊กถ่ายน้ำมันหรือปลั๊กสำหรับเติมน้ำมัน จะต้องใช้ซีล "Suzuki bond No 1215 หรือของที่เหมือนกัน ทาที่เกลียวเพื่อกันรั่ว

การเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย (หน้าและหลัง)
น้ำมันเฟืองท้ายที่ใช้ต้องเป็น "hypoid gear oil" NO SAE 90

    ปริมาณน้ำมัน
ห้องเกียร์ 1.3L (2.7/2.3 US/lmp pt.)
เกียร์ช่วย 0.8L (1.7/1.4 US/lmp pt.)
เฟืองท้าน หน้า 1.5L (3.2/2.6 US/lmp pt.)
  หลัง 1.3L (2.7/2.3 US/lmp pt.)
ไส้กรองอากาศ
หากไส้กรองอากาศเต็มไปด้วยฝุ่น จะทำให้การดูดลมเข้ายากขึ้น เป็นเหตุให้รถกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ควรตรวจสอบและทำความสะอาดไส้กรองอากาศเป็นระยะตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.ปลดแคมป์, ถอดฝาไส้กรองอากาศออก แล้วดึงเอาไส้กรองอากาศออกมา
2.ไส้กรองอากาศนี้เป็นแบบแห้ง จงจำไว้เสมอว่าจำเป็นต้องทำความสะอาดเป็นระยะตามวิธีต่อไปนี้
3.เป่าเอาขี้ฝุ่นออกจากไส้กรองอากาศ โดยใช้ลมที่มีความดันสูง
ระยะของการทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
สภาพถนนปกติ ทำความสะอาดทุก ๆ 10,000 กม.
ถนนมีฝุ่นมาก ทำความสะอาดทุก ๆ 2,500 กม. หรือตามต้องการ
ข้อสังเกต
เปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ทุก 40,000 กม. และเปลี่ยนบ่อยขึ้น หากใช้บนถนนที่มีฝุ่นมาก
หัวเทียน
หัวเทียนมาตรฐานสำหรับรถ SJ413W คือหัวเทียน NGK BP 5 ES หรือนิปปอนเด็นโซ่ W16EX-U เมื่อมีเขม่าจับสะสมอยู่ที่หัวเทียน ความร้อนและการจุดระเบิดอาจไม่สมบูรณ์ ให้ใช้ลวดหรือเข็มแคะเอาเขม่าออก และปรับระยะเขี้ยวหัวเทียนให้อยู่ระหว่าง 0.7-0.8 มม. (0.028-0.031 นิ้ว)
ข้อควรระวัง
เมื่อจะใส่หัวเทียน ให้หมุนด้วยมือก่อนเพื่อป้องกันเกลียวเสีย แล้วจึงหมุนด้วยประแจปอนด์ให้ได้ 25.0-30.0 นิวตั้นเมตร (2.5-3.0 กก./เมตร หรือ 18.0-22.0 ฟุต/ปอนด์) หากจะใช้หัวเทียนตราอื่นนอกจาก NGK หรือ ND ให้ปรึกษาศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
พวงมาลัย
ตรวจสอบระยะฟรีของพวงมาลัย โดยหมุนพวงมาลัยจากซ้ายไปขวาอย่าง ๆ ระยะฟรีของพวงมาลัยจะต้องต่ำกว่า 15 มม. วัดตามเส้นรอบวงของพวงมาลัย เมื่อขับรถอย่างช้าๆ ให้หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบว่าการหมุนพวงมาลัยเบา และเป็นไปด้วยความคล่องตัว หากมีอะไรผิดปกติ ต้องส่งรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
แป้นขาคลัช
ระยะฟรีของแป้นขาคลัช จะต้องอยู่ระหว่าง 15-25 มม. (0.6-1.0 นิ้ว) หากระยะฟรีมากกว่าหรือต่ำกว่าค่าดังกล่าว หรือหากพบว่าแป้นขาคลัชผิดปกติ ให้ติดต่อศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบและซ่อมได้
ระบบเบรค / น้ำมันเบรค
กระปุกน้ำมันเบรคสามารถเห็นได้ชัดเจน เมื่อท่านเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น ให้ตรวจสอบว่าระดับน้ำมันต้องอยู่เหนือขีด "MIN" หากอยู๋ที่ขีด "MIN" หรือใกล้ชิด "MIN" ให้เติมน้ำมันเบรคเพิ่ม โดยใช้สเปค SAE J1703 หรือ DOT 3
ข้อควรระวัง
1.น้ำมันเบรคควรเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปี
2.ให้ระมัดระวังทุกครั้ง เมื่อเติมน้ำมันเบรค เพราะน้ำมันเบรคเป็นอันตรายต่อตาและสีของตัวถังรถ
แป้นขาเบรค
ให้ตรวจสอบแป้นขาเบรคว่า เมื่อท่านเหยียบเต็มที่ ระยะประมาณ 30 กก. (60 ปอนด์) ระยะระหว่างแป้นขาเบรคถึงผนังด้านหน้าของขาเบรคจะต้องมีระยะอย่างน้อย 75 มม. (3.0 นิ้ว) ระบบเบรคของรถจะปรับเองโดยอัตโนมัติ จึงไม่จำเป็นต้องปรับขาเบรค อย่างไรก็ตาม หากระยะดังกล่าวผิดปกติไป ขอให้นำรถของท่านไปยังศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขทันที
หากพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ จะต้องรีบนำรถของท่านไปยังศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
1.สมรรถภาพในการหยุดรถไม่ดี
2.การหยุดไม่สม่ำเสมอ (การหยุดกินสี่ล้อไม่เท่ากัน)
3.เบรคต่ำ
4.การหยุดใช้ระยะทางมากกว่าปกติ
5.มีเสียงดังเวลาเบรค
6.แป้นขาเบรคเต้นในขณะที่เหยียบเบรค
เบรคมือ
การตั้งคันเบรคมือ ให้ดึงขึ้นและตรวจสอบว่า 2 ล้อหลังถูกล็อคอย่างถูกต้อง โดยคันเบรคมืออยู่ที่คลิ๊กที่ 3-6 หลังจากคลายคันเบรคมือให้อยู่ในตำแหน่งเดิมแล้ว ให้ทดสอบว่ารถสามารถวิ่งได้อย่างปกติ โดยไม่มีอาการจับของเบรคหลัง หากมีอะไรผิดปกติ ให้นำรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
ข้อแนะนำในการยกรถ
1.จอดรถในแนวราบซึ่งมีพื้นแข็ง
2.ดึงเบรคมือขึ้นสุด ให้ใช้ไม้หมอนหนุนยางด้านตรงข้ามกับล้อที่ท่านจะยก
3.ตั้งแม่แรงในแนวตั้ง โดยโยกแม่แรงจนหัวแม่แรงสัมผัสแป้นสปริงดังรูป
4.หมุนแม่แรงขึ้นอย่างช้า ๆ จนยางอยู่เหนือพื้น อย่ายกสูงเกินความจำเป็น
คำเตือน
1.ต้องระมัดระวังให้รถถูกยกขึ้นในแนวตั้ง หากแม่แรงเอนไปทางใดทางหนึ่ง ให้ลดแม่แรงลง แล้วปรับแม่แรงใหม่
2.อย่ายกรถบนพื้นเอียง
3.เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถในระหว่างยกรถ
ยาง
1.ตรวจสอบความดันของยางด้วยเกย์วัด
2.ตรวจความสึกหรอของยาง โดยร่องยางควรเหลือลึกมากกว่า 1.6 มม. หรือให้สังเกตุจุดหมดอายุดอกยาง (TIREWEAR INDICATOR) ในร่องยาง เมื่อสึกถึงระดับนี้แล้ว หมายความว่าร่องยางจะสึกเหลือ 1.6 มม. หรือน้อยกว่าจะต้องรีบเปลี่ยนยาง
3.หากดอกยางสึกผิดปกติ มีรอยแตก รีบให้ศูนย์บริการตรวจสอบและเปลี่ยนยางใหม่
4.ให้ตรวจนัทยึดกะทะล้อว่าอยู่ครบ และแน่นได้มาตรฐาน
5.ตรวจสอบว่าไม่มีตะปู เศษหิน เศษขวด หรืออะไรติดอยู่ในยาง
ข้อควรระวัง
การตรวจความดันของยาง ต้องตรวจระหว่างที่ยางอยู่ในสภาพเย็น
มาตรฐาน ความดันของยาง
  รถเปล่า มีการบรรทุก  
หน้า 20 ปอนด์ / ตร.นิ้ว 20 ปอนด์ / ตร.นิ้ว
หลัง 20 ปอนด์ / ตร.นิ้ว 26 ปอนด์ / ตร.นิ้ว  
การสลับยาง
เพื่อหลีกเลี่ยงการสึกหรอไม่สม่ำเสมอ และรักษาอายุของยางให้ใช้ได้ยาวนาน ให้สลับยางตามภาพประกอบ ยางควรได้รับการสลับทุก ๆ 10,000 กม. (6,000 ไมล์) หลังจากสลับยางแล้ว ให้ตรวจสอบความดันยางให้ได้ตามกำหนด (ซึ่งมีบอกไว้ข้างประตูคนขับ)
ข้อควรระวัง
เมื่อเปลี่ยนยาง ขอให้ใช้ขนาดและชนิดยางมาตรฐานเดิม
การเปลี่ยนยาง
ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1.เตรียมแม่แรงและยางอะไหล่
2.คลายน๊อตยึดกะทะล้อแต่อย่าเพิ่งถอดออก
3.ยกรถขึ้น
4.ถอดยางออก
5.ใส่ยางอะไหล่และยึดน๊อต และค่อย ๆ ขันน๊อตจนเข้า หน้าสัมผัสกะทะล้อ
6.เอาแม่แรงออก และขันน๊อตสลับตรงข้ามจนแน่น
น้ำล้างกระจก
ตรวจสอบว่ามีน้ำล้างกระจกอยู่ในกระปุกน้ำล้างกระจกอย่างเพียงพอ หากน้ำล้างกระจกลดไปให้เติมน้ำล้างกระจกให้พอ
ข้อควรระวัง
อย่าเปิดมอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกโดยไม่มีน้ำอยู่ในกระปุก อย่าเติมน้ำยากันน้ำแข็งตัว
(Antifreeze) จะทำให้ระบบน้ำฉีดกระจกเสียหายได้
แบตเตอรี่
น้ำยาแบตเตอรี่ จะต้องอยู่ระหว่างระดับ "สูงสุด" และ "ต่ำสุด" เสมอการเกิดสนิมที่ขั้วหรือขันไม่แน่น จะทำให้ไฟเดินไม่สะดวก หากเห็นฝุ่นสีขาว ๆ จับที่ขั้ว จะต้องล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วให้ทาจารบีหรือวาสลิน ระมัดระวังอย่าให้น้ำอุ่นเข้าไปในช่องแบตเตอรี่
คำเตือน
ด้วยแบตเตอรี่จะเกิดสารไฮโดรเจนซึ่งสามารถติดไฟได้ ดังนั้น ต้องอย่าให้แบตเตอรี่อยู่ใกล้ไฟหรือประกายไฟ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้ ในกรณีน้ำยาแบตเตอรี่กระเด็นถูกตา หรือผิวหนัง ให้รีบล้างด้วยน้ำธรรมดาและจัดส่งแพทย์ด่วนที่สุด
ฟิวส์
มีฟิวส์ 2 ชุด ชุดแรกเป็นฟิวส์หลัก
(FUSIBLE LINK) ซึ่งเป็นตัวนำกระแสมาจากแบตเตอรี่โดยตรง อีกชุดหนึ่งเป็นชุดของไฟแต่ละระบบ
กล่องฟิวส์
กล่องฟิวส์อยู่ใต้นวมหน้าปัดด้านคนขับ วิธีถอดฟิวส์ให้ถอดฝาฟิวส์ออกก่อน ขนาดแอมป์ของฟิวส์แต่ละตัวสามารถหาได้จากค่าที่แสดงไว้ในฝากล่องฟิวส์
ข้อสังเกต
การถอดฝาฟิวส์ ให้บีบฝาด้านบนและล่างดังแสดงในรูป
ข้อควรระวัง
การเปลี่ยนฟิวส์ทุกครั้ง ต้องใช้ค่าที่ถูกต้อง อย่าใช้วัสดุอื่นทดแทน เช่นกระดาษอลูมิเนียม หรือลวด หากฟิวส์ขาดบ่อย ๆ แสดงว่ามีปัญหาในระบบไฟฟ้า ขอให้รีบปรึกษาศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
การเปลี่ยนหลอดไฟ
ข้อควรระวัง การเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย ๆ เป็นเครื่องแสดงว่าจำเป็นต้องมีการตรวจตราระบบไฟฟ้า ขอให้นำรถเข้าศูนย์บริการรถยนต์ ซูซูกิ
ไฟในห้องโดยสาร
ถอดได้โดยกดฝาเลนซ์ไฟตรงตำแหน่งชี้ สามารถถอดได้ง่าย ๆ โดยการดึงลงมา เมื่อเปลี่ยนหลอดใหม่ ให้แน่ใจว่าหลอดไฟสัมผัสกับสปริงอย่างถูกต้อง
ไฟใหญ่หน้า
ให้ถอดฝาครอบพลาสติกออกก่อน ไฟใหญ่สามารถถอดได้ง่าย ๆ โดยหมุนไปทางซ้ายในขณะที่เรากดลงไป ถอดขั้วต่อไฟออกก่อนดึงไฟใหญ่ออกมา อย่ายุ่งกับสกรูตั้งไฟใหญ่ การติดตั้งไฟใหญ่ตัวใหม่สามารถทำได้ในทางกลับกัน
ไฟเลี้ยว, ไฟหน้า, ไฟส่องป้ายทะเบียนและไฟถอยหลัง
คลายสกรูสองตัวซึ่งยึดเลนซ์ไฟ และถอดออกมา สามารถถอดหลอดไฟโดยกดและหมุนทวนเข็มนาฬิกา เมื่อจะใส่หลอดไฟใหม่ให้ปฏิบัติในทางกลับกัน

สารบัญ