-=-=-=-=-=-=- กลับหน้าหลักเวบบอร์ด ของ www.4x4.in.th -=-=-=-=-=-=-

   SocialTwist Tell-a-Friend



 จอมพราน 01
 Posted : 10 / 12 / 2009, 21:20:30
 สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE

มีข้อความ
__  __

3G คืออะไร ใช้ได้เมื่อไหร่ ความลับของโทรศัพท์ที่ควรรู้มีประโยชน์ครับ


คลิ๊กที่ภาพ

หลายๆ คนคงได้ยินบ่อยขึ้นเรื่อยๆ กับคำว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สามหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า 3G และเป็นเรื่องที่น่าสนใจทั้งด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่และธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล อีกทั้งการทำการตลาดที่ดุเดือดเพื่อแย่งชิงลูกค้า แต่หากมีคนถามเราว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สามหรือ 3G คืออะไร? เราเองมักจะตอบกลับไปง่ายๆ ว่าก็โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคต่อไปไงล่ะครับ หลายคนๆ ก็อ่านหนังสือพิมพ์มาอธิบายบ้าง จำในนิตยสารมาบ้าง แล้วผสมผสานเล่าอธิบายกันไปตามเนื้อความที่ตนรับมา บ้างก็ตรงกันบ้างก็ไม่ตรงกัน บ้างก็ยังสับสน แต่หากเราต้องการคำตอบจริงๆ ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สามหรือ 3G นั้นแท้จริงแล้วคืออะไร มีใครนิยามเป็นทางการไว้หรือไม่และนิยามว่าอย่างไรกันนะ เผื่อเอาไว้ใช้อ้างอิง โดยเฉพาะคนที่ต้องการตัวหนังสือที่ชัดเจนมายืนยัน ผมเลยนำมาเล่าเป็นเรื่องราวเชิงวิชาการแบบภาษาชาวบ้านว่า

คำตอบก็คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สาม หรือ Third Generation of Mobile Telephone หรือ เรียกย่อว่า 3G นั้น ITU (International Telecommunication Union) หรือ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ทำหน้าที่ให้คำแนะนำและวางหลักเกณฑ์ในบริหารการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมให้กับประเทศสมาชิกต่างๆ ทั่วโลก ได้มีแนวทางในการวางหลักเกณฑ์การบริหารทรัพยากรโทรคมนาคมของแต่ละประเทศเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ITU ได้ให้มีการกำหนดมาตรฐานสิ่งที่เรียกว่า เครื่องโทรคมนาคมแบบเคลื่อนที่ ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย (อุปกรณ์โทรคมนาคมในยุคต่อไปอาจจะใช้รวมกันหลายชนิด ทั้งโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือดาวเทียม เป็นต้น) เรียกรวมกันว่ามาตรฐาน IMT-2000 (International Mobile Telecommunications-2000) ซึ่ง ITU ได้กำหนดความหมายของมาตรฐานดังกล่าวในเชิง ย่านความถี่ (Spectrum Band) และมาตรฐานการเชื่อมต่อทางเทคนิค (Technical Standard) อธิบายรายละเอียดยาวไปเดี๋ยวจะจับประเด็นไม่ได้ผมสรุปเลยดีกว่าว่า เจ้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สามมันมีลักษณะทางเทคโนโลยีอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง

นิยาม (Definition)

โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สาม หรือมาตรฐาน IMT-2000 นั้นนิยามสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า

• “ต้องมี แพลทฟอร์ม(Platform) สำหรับการหลอมรวมของบริการต่างๆ อาทิ กิจการประจำที่ (Fixed Service) กิจการเคลื่อนที่ (Mobile Service) บริการสื่อสารเสียง ข้อมูล อินเตอร์เน็ต และ พหุสื่อ (Multimedia) เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” คือ สามารถถ่ายเท ส่งต่อข้อมูล ดิจิตอล ไปยังอุปกรณ์โทรคมนาคมประเภทต่างๆ ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้

• “ความสามารถในการใช้โครงข่ายทั่วโลก (Global Roaming)” คือ ผู้บริโภคสามารถ ถืออุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ไปใช้ได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง

• “บริการที่ไม่ขาดตอน (Seamless Delivery Service)” คือ การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยน เซลล์ไซต์ (Cell Site) เขาใช้คำว่า Seam less นั้นแปลว่า ไร้รอยตะเข็บนะครับ

• อัตราความเร็วในการส่งข้อมูล (Transmission Rate) ในมาตรฐาน IMT-2000 นั้นกำหนดไว้ว่าต้องมีอัตราความเร็ว

> มากกว่า 144 กิโลบิต/วินาที ในทุกสภาวะ
> ถึง 2 เมกกะบิต/วินาที ในสภาวะกึ่งเคลื่อนที่
> สูงถึง 384 กิโลบิต/วินาที ในสภาวะเคลื่อนที่

นั่นแหละครับคือนิยามที่ ITU ให้ความหมายไว้ อ้อยังมีอีกเรื่องก็คือ ITU ได้กำหนดมาตรฐานการเชื่อมต่อความถี่วิทยุ ไว้ 5 มาตรฐานด้วยกันครับ ที่จำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานนั้นก็เพราะว่า ปัจจุบันผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลายๆ ค่ายต่างพัฒนาได้รวดเร็วและหลากหลายวิธีการ ดังนั้นหากไม่มีการกำหนดมาตรฐานผลเสียอาจจะไปตกที่ผู้บริโภคเนื่องจากไม่สามารถใช้สินค้า (โทรศัพท์) เชื่อมต่อกันได้ และปัญหาที่สำคัญคือการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่าย และอุปกรณ์เครือข่าย เข้าเรื่องดีกว่ามาตรฐานการเชื่อมต่อคลื่นความถี่ของ IMT-2000 มีดังนี้ครับ


 

ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.149.156   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น :   &  ปิด - เปิด การถาม/ตอบ ในกระทู้  &  แก้ไข]

   จอมพราน 01
 Posted : 10 / 12 / 2009, 21:22:02
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 1
คลิ๊กที่ภาพ

มาตรฐานการเชื่อมต่อทางคลื่นวิทยุตามมาตรฐาน IMT-2000 ซึ่งระบุไว้ใน Recommendation ITU-R M.1457 ประกอบไปด้วยห้ามาตรฐานดังนี้ครับ (www.itu.int)

1. WCDMA
2. CDMA2000
3. TD-SCDMA
4. EDGE
5. DECT

ในโลกโทรคมนาคมยุคต่อไป หรือโดยเฉพาะระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคต่อไป ความหมายหรือนิยามการทำงาน หรือเทคโนโลยี เขาจะเน้นไปที่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลครับ เช่น สามจี เหรอ หมายถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สามารถรับส่งข้อมูลที่มีความเร็วได้ตั้งแต่ 144 kbps ถึง 2 Mbps ประมาณนั้นครับ หรือ เทคโนโลยี GPRS มีอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ 144 kbps และเทคโนโลยี EDGE มีอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลเท่ากับ 384 kbps เป็นต้นครับ

มีผู้รู้หลายๆ ท่านในวงการโทรคมนาคมถกเถียงกันว่า EDGE ถือเป็น สามจีแล้วนะ หรือบ้างก็ว่า GPRS ก็ต้องเป็นสามจีด้วยสิ เพราะมีความเร็วเท่ากับนิยาม ITM-200 ของ ITU กำหนดไว้ และสำนักงาน กทช. เองก็ได้ให้นิยาม IMT-2000 ไว้เช่นเดียวกับที่ผมนำมาอธิบายให้ฟังข้างต้นแล้ว(นิยาม) ในเอกสานประกอบการทำประชาพิจารณ์แบบเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) ที่ผ่านมา ผมเลยคิดเอาเองเป็นความเห็นส่วนตัวว่า บ้านเมืองเรานักกฎหมายเค้าดูตามตัวหนังสือเลยครับยืนยันชัดเจน ถ้าระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่สามารถทำงานได้ตาม “นิยาม” ข้างต้นทุกข้อแล้ว ไม่ถือว่าเป็น สามจี ครับ ซึ่งบางระบบอาจจะทำได้บางข้อเท่านั้น

แต่ในความจริงแล้ว ในอดีตเราไม่เคยมีใครนิยามไว้เป็นทางการหรอกครับ ว่าอะไรคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 1 อะไรคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่2 หรืออะไรคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 2.5 ล้วนซึ่งอาจจะเกิดจากความเข้าใจตามบทความ โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคแรก นั้นเขาก็เปรียบให้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ อนาลอก (Analog) ครับ อย่างเช่น (NMT) Nordic Mobile Telephone ในบ้านเราในอดีตก็มีย่าน 470 ย่าน 800 ย่าน 900 ประมาณนั้นครับ ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาระบบขึ้นที่เรียกกันว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สอง ซึ่งก็เปลี่ยนจากสัญญาณ อนาลอก มาเป็นสัญญาณ ดิจิตอล ครับ หรือระบบโทรศัพท์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง อาทิเช่น ระบบ GSM (Global System for Mobile Communications) เป็นต้นครับ ถ้าจำไม่ผิดระบบดิจิตอล เซลลูล่าร์ ที่เราใช้กันอยู่ปัจจุบันน่าจะมีอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลประมาณ 64 kbps พูดให้เข้าใจง่ายว่าเหมือนเราต่อ อินเตอร์เน็ต ผ่านสายโทรศัพท์บ้านธรรมดาเท่านั้นเอง และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Operators) ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเสริมปริทธิภาพการทำงานของระบบให้รวดเร็วขึ้น จึงพัฒนาให้ระบบมีความเร็วขึ้นเป็นเทคโนโลยี GPRS และเทคโนโลยี EDGE ตามลำดับ

อย่างที่ผมกล่าวถึงข้างต้นว่า ในการพัฒนาเทคโนโลยีของผู้ผลิตหลายๆ ค่าย ต่างคนต่างพัฒนา การใช้งานอาจจะส่งผลกระทบถึงผู้บริโภค เช่น เรียกข้ามเครือข่ายไม่ได้ ดังนั้นจึงพยายามบีบให้เหลือมาตรฐานทางเทคโนโลยีน้อยที่สุด ซึ่งก็ยังมีถึง 5 มาตรฐานตาม IMT-2000 ดังที่กล่าวมาแล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่าจากระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน จะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายไปยัง สามจี อย่างไร ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า Evolution Paths


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.149.156   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   จอมพราน 01
 Posted : 10 / 12 / 2009, 21:23:54
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 2
คลิ๊กที่ภาพ

จะใช้ได้เมือไหร่?
กทช ยังไม่ได้ออกใบอณุญาตให้บริการเลยครับ

2 แทบจะทุกเครือข่ายยังไม่มีการลงทุนจริงจัง มีแค่ทำการทดสอบบางจุดเท่านั้น

3 การใช้งานที่มีประสิทธิภาพต้องมีการลงทุนเครือข่าย อัพเกรดเครือข่าย และวางโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก

คิดว่าเมืองไทยคงจะเริ่มใช้ได้ในกรุงเทพและเมืองใหญ่ๆประมาณปี 51 ครับ


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.149.156   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   จอมพราน 01
 Posted : 10 / 12 / 2009, 21:27:56
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 3
คลิ๊กที่ภาพ



1. หมายเลขสากลฉุกเฉิน 112 ใช้ได้ทั่วโลก
ถ้าเกิดเราหลงไปอยู่ในเขตที่ไม่มีสัญญาณเลย แต่มีเหตุด่วนเหตุร้ายให้ กด 112 แล้วมันจะหาเบอร์ให้เองอัตโนมัติแม้แต่เราล็อคปุ่มก็ยังกดเบอร์นี้ได้..ลองดูสิครับ

2. ใช้ในกรณีที่ลืมกุญแจไว้ในรถ...สำหรับรถที่ใช้
ถ้ารถล็อคไปแล้ว แต่เรามีกุญแจสำรองอยู่ที่บ้าน ให้โทรไปหาคนที่อยู่ที่บ้านด้วยมือถือ ( เราต้องโทรไปหาเบอร์มือถือของเขาด้วยนะ) เมื่อเขารับแล้วให้เราบอกเขา ให้กดปุ่ม unlock บนกุญแจสำรองในขณะที่เราถือมือถือให้ห่างจากประตูรถประมาณ 1 ฟุต ( คนที่อยู่บ้านที่เราวานให้กดต้องเอากุญแจไปจ่อใกล้กับมือถือของเขาในขณะที่กดปุ่ม) ประตูรถก็จะเปิดออกเหมือนเรากดปุ่มรีโมทด้วยตัวเองเลยแหละระยะทางไม่มีปัญหา แม้รถกับบ้านจะอยู่ห่างกันเป็นร้อยๆ กม. ก็ตาม


3. กรณีแบ็ตใกล้จะหมด * 3370# สำหรับมือถือ Nokia
ถ้าเกิดถ่านเหลือน้อยเต็มทีจนใกล้ดับแต่เราจำเป็นต้องโทรออกให้กด * 3370# มันจะรีดพลังสำรองที่ซ่อนออกมาแล้วแสดงให้เห็นว่า เพิ่มพลังถ่านให้ขึ้นมาอีก 50% และมันจะชดเชยส่วนสำรองนี้ในการชาร์จแบตครั้งต่อไป

4. ถ้าโทรศัพท์หายต้องการทำให้ใช้ไม่ได้ตลอดไป
ในกรณีนี้เราต้องใช้ หมายเลข serial number ประจำเครื่อง ซึ่งมี 15- 17 หน่วย การที่จะทราบหมายเลขนี้ก็ไม่ยากครับ กด * #06# แล้วหมายเลขประจำเครื่องก็จะขึ้นมาให้เห็นทันทีเหมือนเล่นกล จดไว้ครับแล้วเก็บไว้ให้ดี....

ที่นี้ถ้ามือถือหายหรือตกหล่นให้โทรไปที่ศูนย์แล้วแจ้งหมายเลขให้เขาไป เขาก็จะบล็อคเครื่องของเราให้แล้วทีนี้มือถือที่หายไปจะใช้ไม่ได้อีกเลย ถึงแม้ว่าคนขโมยไปจะเปลี่ยน sim card มันก็จะยัง ใช้ไม่ได้อยู่ดีได้อย่างเดียวคือไว้เขวี้ยงหัวหมาหรือหลังคาคนอื่น ( อาจจะหลอกไปขายต่อได้..ถ้าคนซื้อต่อเขาไม่รู้....)

[ ประโยชน์ของโทรศัพท์มือถือที่คุณอาจไม่ทราบ

 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.149.156   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   จอมพราน 01
 Posted : 10 / 12 / 2009, 21:31:10
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 4
คลิ๊กที่ภาพ

การใช้และชาร์จแบตเตอรี่มือถืออย่างถูกวิธี
1. การใช้งานแบตเตอรี่แต่ละครั้ง (Cycle) ควรใช้ให้หมดจนกระทั่งอยู่ในภาวะ Low Batt หรือเกือบ Low Batt จริงอยู่ ที่ว่าแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนและไฮดรายไม่มี Memory Effect และเราจะชาร์จเมื่อใหร่ก็ได้ แต่แบตเตอรี่ชนิดนี้ก็มีการกำหนดอายุการใช้งานด้วยจำนวน Cycle ของการใช้งาน ดังนั้นหากใช้แบตเตอรี่ไม่หมดแล้วนำไปชาร์จบ่อย ๆ ก็จะทำให้จำนวน Cycle ถึงกำหนดเร็วขึ้น ซึ่งโดยปกติอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ชนิดลิเธียมไอออนจะอยู่ที่ราว 350-500 Cycle ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ Spec ของผู้ผลิตแต่ละราย รวมถึงสภาพแวดล้อมในการใช้งานและความชื้นด้วย

.

2. ในกรณีที่มีแท่นชาร์จ ควรถอดแบตมาชาร์จที่แท่นต่างหาก ไม่ควรชาร์จโดยคาแบตเตอรี่ไว้ในโทรศัพท์มือถือ ( ทั้งการนำโทรศัพท์มาชาร์จแท่นด้านหน้า หรือใช้สายชาร์จแบบ Travel Charge) ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการชาร์จแบตเตอรี่แบบเสียบผ่านมือถือไม่ดี หากแต่การชาร์จแบตเตอรี่ต่างหากบนแท่นชาร์จ จะเป็นการชาร์จช้าหรือ Slow Charge ซึ่งจะถนอมแบตเตอรี่มากกว่าการชาร์จเร็วหรือ Quick Charge แบบการชาร์จผ่านโทรศัพท์มือถือ

.

3. ระวังอย่าให้แบตเตอรี่เปียกน้ำ เพราะอาจทำให้ปฏิกิริยาเคมีภายในแบตเตอรี่เสียหาย ยิ่งในกรณีแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมด้วยแล้ว อาจจะทำให้อุปกรณ์ป้องกันภายใน (Protection Circuit) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เสียหายไปด้วย ซึ่งจะมีผลให้การจ่ายกระแสผิดปกติได้

.

4. ไม่ควรใช้งานหรือวางแบตเตอรี่ไว้ใกล้ ๆ ความร้อน เช่นเปลวไฟ เครื่องกำเนิดความร้อนต่าง ๆ รวมถึงบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง เช่นด้านหน้ารถยนต์เป็นต้น เพราะความร้อนจะมีผลให้ตัวคั่นอิเล็กโทรด (Separator) เสียหายจนเกิดการลัดวงจรภายในได้

.

5. ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกชนิด เช่น ในการชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียม จะต้องแน่ใจว่าเครื่องชาร์จสามารถชาร์จแบตเตอรี่ชนิดนี้ได้ ซึ่งต้องเป็นกระบวนการชาร์จแบบ CCCV (Constant Current Constant Voltage) เท่านั้น เป็นต้น

.

6. ต้องระวังไม่ให้ขั้วบวกและลบของแบตเตอรี่ลัดวงจรหรือช็อตกันเด็ดขาด และหากใส่แบตเตอรี่ไว้ในกระเป๋า ก็ควรแน่ใจว่าไม่มีโลหะ เช่น เหรียญ กิ๊บหนีบผม หรือสิ่งที่เป็นโลหะสื่อไฟฟ้าอยู่ใกล้ เพราะจะทำให้ลัดวงจรได้

.



.

7 . ระวังอย่าให้แบตเตอรี่ตกหล่นหรือกระทบกระเทือนมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งจะมีผลให้อุปกรณ์ป้องกัน ภายในแบตเตอรี่เสียหาย และทำให้เกิดการชาร์จหรือจ่ายกระแสผิดปกติได้

.

8 . แบตเตอรี่ที่ไม่ได้ใช้นาน ๆ ควรเอาออกมาจากโทรศัพท์แล้วเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น เพราะอาจเกิดคราบออกไซด์ที่ขั้วได้ง่าย

.

9 . ในกรณีที่ขั้วแบตเตอรี่สกปรก ให้ทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือยางลบถู แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ด ซึ่งการที่ขั้วแบตเตอรี่สกปรกอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความชื้น การใช้แบตเตอรี่เพียงก้อนเดียวคาเครื่องไว้ตลอด เวลาชาร์จก็ใช้สายชาร์จต่อเข้ากับมือถือ ไม่ได้ถอดออกมาเลย จะทำให้เกิดคราบออกไซด์ได้ง่าย


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.149.156   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   จอมพราน 01
 Posted : 10 / 12 / 2009, 21:33:24
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 5
คลิ๊กที่ภาพ

มือถือตกน้ำ*
เมื่อนำมือถือ ออกมาจากแหล่งน้ำได้แล้ว อย่าเพิ่งกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง โดยเด็ดขาด เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ ยังเปียกน้ำ หรือยังมีความชื้น การกดปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง อาจทำให้เกิดการลัดวงจรและเสียหายหนัก หรือเสียหายถาวรได้

ให้รีบถอดส่วนประกอบต่างๆ ของ มือถือ ออกจากกันอย่างรวดเร็ว ( ส่วนประกอบที่สามารถถอดได้เองตามปกติ) ไม่ว่าจะเป็น ซิมการ์ด, แบตเตอรี่ , หน้ากาก, ฝาหลัง, ฯลฯ

เมื่อถอดส่วนประกอบต่างๆ เท่าที่สามารถถอดได้เรียบร้อยแล้ว อาจจะใช้การสลัดน้ำด้วยแรงพอประมาณ รวมถึงให้นำผ้า ( ชนิดที่ไม่มีขน) หรือกระดาษทิชชู (คุณภาพดี ไม่เป็นขุย) มาซับน้ำ ที่เกาะอยู่ตามจุดต่างๆ ให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออาจจะใช้ พัดลมช่วยเป่าด้วยก็ได้

ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้งเด็ดขาด เนื่องจากลมจากไดร์ เป่าผมมีความร้อนสูง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ หรือวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในได้โดยง่าย

ไม่ควรนำ มือถือ และอุปกรณ์ต่างๆ ไปตากแดด เพื่อหวังให้แห้งเร็วขึ้น เพราะความร้อนจากแสงแดดนั้น สูงเกินไปสำหรับ มือถือ และอุปกรณ์ต่างๆ

ยังไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ทันที เนื่องจากวงจรภายในอาจจะยัง ไม่พร้อมที่จะรับกระแสไฟฟ้า นำเครื่องเข้าศูนย์บริการเพื่อการตรวจเช็คโดยละเอียด หาถุงผ้าหรือผ้าบางๆห่อเครื่องไว้ อย่าลืมเปิดฝาหลัง ที่ฟอกเเบตเตอรี่ด้วย หลังจากห่อแล้วรัดยางเอาไว้ เอาไปฝังในถังข้าวสาร 24 ชั่วโมง หลังจากผ่านไป 1-2 วัน ก้เอาออกจากถังข้าวสาร แล้วนำเเบตเตอรี่ไปใส่ เพียงแค่นี้ มือถือของคุณ ก็กลับมาใช้ได้ตามปกติ r>



ตอบ โดย : / เมื่อ : 2009-12-10 21:36:32



 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.149.156   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   ลูกออ๊ด
 Posted : 11 / 12 / 2009, 14:12:57
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 6
Thank หลายเด้อ

 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 112.142.57.206   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   กวางต้นน้ำ
 Posted : 11 / 12 / 2009, 22:56:40
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


มีข้อความ
__  __

ข้อความเลขที่ : 7


ขอบคุณค้าบบ

เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ทันสมัย

เมื่อก่อน โนเกีย รุ่น 3310 ออกมาแรกๆจอขาวดำเครื่องเป็นหมื่น เดี๋ยวนี้ 500 วางเป็นโหลๆเลยคับ

 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
Board : vision12
IP 115.87.29.121   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

Page :    1

[ ปิดหน้าเพจ ]

ย้ายเวบบอร์ดไป VISION13 แล้ว




© Copyright 2000 - 2012 Allrights reserved.
Powered by www.suzuki4x4.net ™ Version 2.2.1 ®
 www.4x4.in.th