-=-=-=-=-=-=- กลับหน้าหลักเวบบอร์ด ของ www.4x4.in.th -=-=-=-=-=-=-

kan4x4

Posted : 31 / 3 / 2010, 08:32:49

มีข้อความ
__ __

เรื่องควรรู้ รถที่มีประกัน
บ่อยครั้งที่ผู้เอาประกันซื้อกรมธรรม์ประกันภัยด้วยความเชื่อและเครดิต มากกว่าที่จะตั้งใจอ่านสัญญาในกรมธรรม์ซึ่งเต็มไปด้วยภาษากฏหมายเข้าใจยาก

ด้วยเหตุนี้ความรู้เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ที่หลายคนยังไม่ทราบจึงยังคงเป็นปริศนาต่อไป การเข้าใจกรมธรรม์แบบง่ายๆ จึงน่าจะสามารถช่วยให้คุณรักษาสิทธิประโยชน์ของคุณไว้ได้อย่างเต็มที่

10 เรื่อง "ต้อง" รู้เกี่ยวกับประกันภัย

1. กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะมีผลทันทีที่ผู้เอาประกันชำระเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัท (รวมไปถึงนายหน้าผู้เอาประกันด้วย) ดังนั้นแม้การซื้อผ่านนายหน้าถ้ามีใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้องก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบมิได้

2. ในกรณีที่รถคุณเสียหายอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถซ่อมกลับคืนได้ บริษัทต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันเต็มทุนประกัน และรถคันนั้นจะตกเป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันภัย

3. ค่าแอกเซ็ปต์ หรือค่าใช้จ่ายส่วนแรกนั้น ในกรณีไม่มีคู่กรณีจะจ่ายเพียง 1,000 บาท เท่านั้น แต่ถ้าคนอื่นขับไปทำให้เกิดความเสียหาย ต้องจ่าย 6,000 บาท

4. ค่าอะไหล่ที่เกิดจากการซ่อม ผู้เอาประกันสามารถเรียกร้องเป็นเงินตามราคาประเมินเพื่อนำไปจัดหาเองได้ ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าจะได้อะไหล่แท้หรือไม่

5. หากภายในรถของคุณมีการติดตั้งอุปกดรณ์สำหรับระบบก๊าซ NGV หรือ LPG เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องแจ้งให้บริษัททราบ เพราะหากเกิดเหตุและรถคันเอาประกันเป็นฝ่ายผิด ความคุ้มครองที่จะได้รับจากการประกันอาจไม่สมบูรณ์

6. หากคุณขับรถชนกับรถคู่กรณีที่ไม่มีประกันภัยและรถของท่านเป็น "ฝ่ายถูก" คุณควรตรวจสอบไปที่บริษัทประกันภัยว่าตามรายงานอุบัติเหตุนั้น รถของคุณเป็นฝ่ายถูกจริงเหรอ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์

7. การดูแลขนย้ายรถที่เสียหายเนื่องจากอุบัติเหตุเพื่อไปซ่อมที่อู่เป็นหน้าที่ของบริษัท แม้ว่าจะต้องย้ายรถไปโรงพักหรือที่ใดก็ตามตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนกระทั่งซ่อมเสร็จ บริษัทประกันภัยจะต้องรับภาระส่วนนี้ แต่ไม่เกินร้อยละยี่สิบของค่าซ่อม

8. ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน และคุณไม่แน่ใจว่าเป็นฝ่ายถูกหรือผิด คุณไม่จำเป็นต้องเซ็นรับผิดในใบเครม เพราะไม่ใช่กติกาหรือข้อกฏหมายแต่เป็นหน้าที่ที่บริษัทซึ่งคุณทำประกันจะไปทำการตกลง

9. อย่าคิดหนีในกรณีที่ขับรถชนคน ให้ช่วยเหลือคนเจ็บให้เต็มที่ และถ่ายรูปหลักฐานที่เกิดเหตุไว้ต่อสู้คดี เพราะศาลจะพิจารณาจากความมีน้ำใจที่คุณช่วยเหลือผู้อื่น บางทีโทษทางอาญาอาจเหลือแค่การรอลงอาญา และตกลงค่าเสียหายกันตามสมควรแต่ถ้าคุณหนีจะติดคุกทันที

10. ประกันภัยจะไม่คุ้มครองความเสียหายในขณะที่รถของคุณถูกลากจูง หรือขับรถขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่น้อยกว่า 150mg% หรือขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เว้นแต่ในกรณีที่ทำประกันประเภทระบุชื่อคนขับ และความเสียหายนั้นเกิดขึ้นในขณะที่คนระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่

0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Board : vision12

IP 114.128.29.127

ต๊อกปากเกร็ด

Posted : 31 / 3 / 2010, 13:57:51

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

มีข้อความ
__ __

ข้อความเลขที่ : 1
เสริมหน่อยครับเจอมาก่ะตัว
กรณีประกันจะหมด(ชั้น1)แล้วทำการเคลมรอบคันอย่าได้ทำการต่อประกันกับ บ.เดิม
เพราะค่าเบี้ยประกันจะขึ้นแพงมากกก ผมเจอมาขึ้นเป็น 18000 เคลมรอบคันไป 12000
เสียค่าแอคเซป อีก 2000 สรุปได้มา 10000 เดียว แต่ต้องจ่าย บ. ประกัน 18000 คับ

0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Board : vision12

IP 58.137.49.76

สิงห์ดำ

Posted : 2 / 4 / 2010, 08:44:28

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

มีข้อความ
__ __

ข้อความเลขที่ : 2
ข้อแนะนำ จากประสบการณ์ : กรณีต้องการเคลมรอบคันก่อนหมดอายุกรมธรรม์ อย่าเพิ่งรีบแจ้งเคลมครับ ก่อนหมดอายุกรมธรรม์ 1 เดือนให้รีบติดต่อ บ.ประกันเพื่อขอต่อประกัน (ขอราคาค่าเบี้ยประกัน) จากนั้นให้ชำระเบี้ยประกันโดยเร็ว ภายใน2 สัปดาห์ เราจะได้กรมธรรม์ฉบับใหม่มา จากนั้นกรมธรรม์ฉบับเก่ายังมีอายุอีก2 สัปดาห์ เราค่อยแจ้งเคลมรอบคันได้ครับ มันจะไม่มีผลต่อกรมธรรม์ฉบับบใหม่ที่เราใช้ในปีต่อไป

ป.ล. ขอแสดงความเสียใจกะหมอต๊อกด้วยนะ ที่พลาดไปแล้ว อ้อ! เสาร์นี้พี่ไปตลาดนัดซูไม่ได้เพราะติดธุระครับ ยังงัยเรื่องสติ๊กเกอร์รบกวนหมอต๊อกนำไปฝากให้ที่พี่นัชชายป่า หรือที่ท่านจอมพราน ก็ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ

0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Board : vision12

IP 183.89.88.102

อูฐน้อย

Posted : 2 / 4 / 2010, 14:33:23

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

มีข้อความ
__ __

ข้อความเลขที่ : 3
ขอเสริมครับการทำประกันไม่ใช่การนำเงินไปฝากธนาคารนะครับไม่น่าจะเคลมรอบคันตอนใกล้หมดอายุกรมธรรม์ เนตผลเนื่องจาก
1.คุณแจ้งเคลมเท็จแน่นนอนเช่นวัน/เดือน/ปี/เวลาที่เกิดเหตุ(ผิดศีลนะครับ)
2.สีที่พ่นมาจากโรงงานขณะอบแห้งไม่มีอุปกรณ์ติดตั้งในตัวรถเช่น เบาะ,คอนโซล,หรือชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกดังนั้นความร้อนที่ใช้ในการอบรวมกับเป็นการพ่นสีครั้งแรกไม่มีการเคาะหรือโป๊วสีเข้าไปสิ่งที่ได้คือความแข็งแรงของสีที่สูงกว่าครับ
3.อันนี้ไม่แน่ใจแต่เข้าใจว่าทุนประกันกับเบี้ยประกันและราคาซื้อขายในท้องตลาด(ค่าเสื่อม)มันเป็นสูตรในการคำนวนเบี้ยประกันภัยจะแปรผันไปตามกันครับ
4.คุณ kan 4x4 ให้รายละเอียดค่อนข้างเกือบครบครับนั่นก็คือสอบถามพนักงานหรือเอาแน่ก็ถามกรมการประกันภัยจะได้คำตอบที่ 100% ครับเพราะเท่าที่อ่านมายังเป็นการมองมุมเดียวครับ
ชาวซูไม่ใจแคบอยู่แล้วผมชอบสังคมซูครับ

0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Board : vision12

IP 124.157.213.157

Page : 1

[ ปิดหน้าเพจ ]

ย้ายเวบบอร์ดไป VISION13 แล้ว