จำนวนถาม : จำนวนตอบ : รวมทั้งหมด : 0 มีข้อความ |
|
ข้อความเลขที่ : 3 1. รอบเหลือมากจากเดิมประมาณ 700 รอบที่เกียร์ 5 ความเร็วตามไมล์ 100
>>> รอบเหลือมากเป็นปกติ ของ เฟือง 8/41 กับยาง 31 ถ้าเครื่องยนต์ปกติ ลองซัดยาวๆดูครับ ไมล์อาจเลย 140 (แต่ความเร็วจริงไม่ถึง)
2. ต้องออกตัวที่เกียร์ 2 เลย เกียร์ 1 ออกตัวสั้นมากๆๆๆ
>>>ก็ปกติอีกเช่นกัน สาเหตุตามข้อ1 รอบจัดเกิน
3. จากที่เคยใช้เกียร์ตามลักษณะของการจราจรต้องเปลี่ยนเป็นอีกเกียร์ เช่น จาก 2 เป็น 3
>>>ก็ปกติอีกเช่นกัน สาเหตุตามข้อ1 รอบจัดเกิน
4. เสียงเครื่องดังขึ้นจากเดิมพอสมควร ตอนนี้ยังไม่ชินครับ
>>>ก็ปกติอีกเช่นกัน สาเหตุตามข้อ1 รอบจัดเกิน
5. เลขไมล์ช่องเล็กเพี้ยนหรือเปล่าแก๊ส 1 ถังวิ่งได้มากกว่าเดิมเกือบ 100 โล
>>>ก็ปกติอีกเช่นกัน สาเหตุตามข้อ1 ไมล์คาริเบี้ยน วัดจากการหมุนของเกียร์สโลว์ เมื่อทดเฟืองท้าย
8/41 อัตราทด 5.125 - เฟืองเดิม 11/43 อัตราทด 3.909 = รอบการหมุนที่เพิ่มขึ้น 1.261 บวกกับ
อัตราทดของเกียร์สโลว์เดิมๆ 1300 ที่ไม่ใช่ 1ต่อ1 คือ 4h 1.409, 4L 2.268 ทีนี้ก็ต้องคำนวนว่าอัตรา
ทดขนาดนี้ เหมาะกับยางขนาดเท่าไหร่ ถ้าใส่ยางในขนาดที่เหมาะสม รอบเครื่อง กำลังรถก็จะใกล้เคียงรถสแตนดาร์ด
>>>เพิ่มเติม<<<<
คำถาม
อัตราทดสูงดีมั๊ย >>> ดี มีกำลัง ในการลุย การขึ้นเนินชัน การปีนป่าย แต่ ต้องยอมรับ อัตราการ
บริโภคเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่สูงขึ้น(การทำงานที่หนักขึ้น) นั่นหมายถึงอุณหภูมิ
เครื่องยนต์ที่สูงขึ้น (ลองคิดง่ายๆคือถ้าเอาเหล็ก 2 ชุด มาถูกันในเวลาเท่ากัน ชุดนึง ถูแบบเรื่อยๆไม่
รีบ อีกชุด ถูแบบเร็วถี่ยิบ แน่นอน เหล็กที่ถูแบบถี่ยิบ ต้องร้อนกว่า อีกชุดที่ถูแบบเรื่อย ถึงแม้จะถู
ในเวลาที่เท่ากัน) เทียบกับเครื่องยนต์ก็เหมือนกัน ต้องลองติดเกจ์วัด TEMP ดูอีกจุด คือนำเซ็นเซอร์
ไปติดในจุดที่แนบกับโลหะเครื่องยนต์ดูครับ รับลองว่าอุณหภูมิจะสูงกว่า วัดความร้อนเดิมที่มากับรถ
ซึ่งวัดจากน้ำในหม้อน้ำ จะแค่ 100 องศา เมื่อถึงจุดเดือดที่100 องศา ก็จะกลายเป็นไอน้ำ (แต่ต้อง
เป็นน้ำบริสุทร์แต่อุณหภูมิรอบๆ อาจจะสูงเกิน 100 ได้)
หลายคนอาจมองข้ามเรื่องความร้อนเพราะคิดว่าเด๋วเปลี่ยนหม้อน้ำใหญ่ขึ้น หรือ เพิ่มช่องหม้อน้ำให้
เป็น 3 ช่อง จากเดิม 2 ช่อง หรือติดพัดลมไฟฟ้าเพิ่ม แต่ไม่ค่อยมองว่าอุณภูมิของโลหะมันจะสูงแค่
ไหนในเวลาที่อยู่ในรอบสูงๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้องเดินทางไกลๆ ต้องใช้ความเร็ว ก็ต้องกดคันเร่ง
ถึงแม้จะกดคันเร่งเท่าเดิม (ในตอนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้าย หรือ เกียร์สโลว์ก็ตาม) แน่
นอนว่ารอบเครื่อง จะสูงไปจากเดิมแน่นอน
ทีนี้ก็จะเป็นคำตอบว่า เราใช้รถในลักษณะใด กี่เปอร์เซ็นในการใช้รถ ที่ต้องใช้กำลังสูงๆ ต้องปีนป่าย
กี่เปอร์เซ็นที่เราใช้วิ่งปกติในชีวิตประจำวัน(มีอัตราเร่งแซงที่ดี มีกำลังพอที่จะขึ้นทางชัน) ก็เลือก อัตรา
ทดที่เหมาะสมครับ
ปล.เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่มาจากรถผมเองนะครับ รถรุ่นเดียวกันไม่เหมือนกันเสมอไป รอพี่ๆท่านอื่นมาชี้แนะอีกทีนะครับ
|
|