-=-=-=-=-=-=- กลับหน้าหลักเวบบอร์ด ของ www.4x4.in.th -=-=-=-=-=-=-

TANKY

Posted : 26 / 9 / 2013, 21:32:08

มีข้อความ
__ __

อยากถามเกี่ยวกับการพ่วงแบตลูกที่สองครับ
ผมเปลี่ยนแบตขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิม 45แอมป์ เป็น 80แอมป์ แล้วลูกเก่ามันก็ยังใช้งานได้อยู่ เลยอยากจะเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ เลยอยากทราบวิธีพ่วงแบตลูกที่สองไว้ท้ายกระบะเพื่อไว้ใช้กับวินช์หลังและอุปกรณ์แปลงไฟ แต่ไม่ทราบวิธีการ ท่านผู้ใดมีความรู้ช่วยชี้แนะหน่อยครับ ขอบคุณครับ

1
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

กวางต้นน้ำ ,

Board : vision13

IP 58.8.219.159

[ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : & ปิด - เปิด การถาม/ตอบ ในกระทู้ & แก้ไข]

เสือตอ

Posted : 26 / 9 / 2013, 22:22:15

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

ข้อความเลขที่ : 1
การพ่วงแบตลูกที่สอง ทำได้โดย ต่อขั้วบวกลูกแรก ไปขั้วบวกลูกที่สอง
ต่อขั้วลบลูกแรก ไปขั้วลบลูกที่สอง

ก็คือต่อขนานกันนั่นแหละ ใช้สายไฟเส้นโตๆ ยิ่งโตยิ่งดี อิอิ และยิ่งสั้นยิ่งดีละ

แต่ๆๆๆๆๆๆ

การพวงแบตสองลูกจะต้องใช้ลูกเท่ากัน ง่ายๆๆคือ แอมป์เท่ากัน

ยกตัวอย่าง เช่น
ของเดิม 12 โวลท์ 65 แอมป์ หากจะเพิ่ม ก็ต้องใช้ 12 โวลท์ 65 แอมป์เพิ่มเข้าไปอีกลูกนึง
คิดง่ายๆ กระแสไฟจะให้ได้ถึง 65+65=130 แอมป์ ประมาณนี้ เท่ากับว่าได้แบตลูกใหญ่ถึง 130 แอมป์เลย

หากเพิ่มแบตแล้ว ต้องเพิ่มขนาดไดชาร์จตามขึ้นไปด้วย ไดชาร์จเดิมแค่ 45 แอมป์ มันชาร์จแบต
ลูกใหญ่ 130 แอมป์ไม่ไหวหรอกนะ จะร้อนจนไหม้เสียหายได้ หรือชาร์จนานมากไม่รู้จักเต็มสักที

ไดชาร์จอย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 65 แอมป์ แค่นี้หากไปวินซ์เล่นกันจริงๆๆแล้ว ไดก็ชาร์จไม่ทันเหมือนกัน
เอิ๊กๆๆ นี่เป็นตัวอย่างจากของจริงนะ ฮรี่ ฮรี่

ส่วนที่บอกว่าจะเอาแบต 80 แอมป์ มาพ่วงกับแบต 45 แอมป์ ไม่ควรทำนะเพราะแทนที่จะได้แอมป์
เพิ่มเหมือนตัวอย่างข้างบน หรือ 80+45=125 มันจะได้เพียงแค่ 45 แอมป์เท่านั้นเอง จริงๆๆนะ
มันจ่ายกระแสได้เท่าที่ลูกเล็กจ่ายได้นั่นแหละ เผลอๆๆจะทำให้ลูกใหญ่เสื่อมสภาพลงตามไปด้วย
คริ คริ

ทำไมถึงได้แค่นี้
คงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแบตโดยตรงมาอธิบายนะ อิอิ เรื่องมันยาว

ในที่นี้ควรจะใช้แบตลูก 80 แอมป์ลูกเดียวพอแล้วครับ

3
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Oldman and old ZU , กวางต้นน้ำ , หนึ่ง ,

Board : vision13

IP 111.84.114.199

[ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]

TANKY

Posted : 26 / 9 / 2013, 22:26:19

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

ข้อความเลขที่ : 2
ขอบคุณครับ

0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Board : vision13

IP 58.8.219.159

Oldman and old ZU

Posted : 26 / 9 / 2013, 22:53:21

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

ข้อความเลขที่ : 3
ผมทำเหมือนที่พี่เสือตอว่ามา แต่ผมเปลี่ยนแบตเป็น 100 แอมป์ ทั้งสองตัว ใช้ไดนาโมชารท์ตัวเก่าน่ะแหละ ใช้มานานมากแล้ว ยังใช้ได้ดีนะครับ

0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

Board : vision13

IP 58.97.123.131

Ton Korat

Posted : 1 / 10 / 2013, 08:33:42

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

ข้อความเลขที่ : 4
ขอออกความคิดเห็นแบบเพื่อนๆฝูงๆกันนะครับ ผมอาจผิดก็ได้
การพ่วงแบตที่แอมป์-ชม.ไม่เท่ากันเพื่อเป็นการต่อแบบขนาน ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ เอาแอมป์รวมกันได้เลย เพราะ
ความต่างศักย์มันเท่ากัน กระแสจะไม่ไหลจากลูกไปอีกลูก นอกจากว่าแบตทั้งสองลูกจะมีคุณสมบัติต่างกันมาก(แรงดัน,ความต้านทาน
ทั้งขาเข้าและขาออก ถ้าใช้แบตที่แอมป์-ชม.เท่ากัน,ยี่ห้อเดียวกันและสภาพเก่าใหม่เท่ากันจะดีมาก แต่ถึงไม่ใช่ก็ยังพ่วงได้สบาย)ซึ่ง
ทั่วไปก็ทำกันอยู่ ขอให้ไดชาร์จรับโหลดได้มากพอเป็นใช้ได้
กรณีที่ว่าจะจ่ายได้แค่เท่าลูกเล็กและทำให้เสื่อมเร็วไปด้วยกันน่าจะเป็นการต่อแบบอนุกรมเพื่อเพิ่มแรงดันเป็นแบบ 24 V มากกว่า
ครับเพราะกระแสรวมจะเท่ากันคือเท่าแบตลูกเล็ก

ผมอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนก็ได้ครับ แต่ก็พยายามอิงกับทฤษฎีรวมทั้งการปฏิบัติที่เคยเล่นมาบ้าง

1
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E

กวางต้นน้ำ ,

Board : vision13

IP 101.51.106.13

E85ZUK

Posted : 1 / 10 / 2013, 11:39:38

จำนวนถาม :

จำนวนตอบ :

รวมทั้งหมด : 0

ข้อความเลขที่ : 5

แบตความจุต่างกันต่อขนานได้ครับ แต่มีข้อแม้เคร่งคัด...

1.ชนิดแบตต้องเหมือนกัน กรณีรถคือ Lead-Acid เพราะคุณสมบัติแรงดันไฟและเวลาในการที่ใช้ชาร์ทต้องเหมือนกัน ไม่งั้นจะเกิดการชาร์ทเกินหรือเต็มไม่เท่ากันก็จะลดอายุตัวชาร์ทเกินก่อนเพื่อน
2.อายุแบตต้องใกล้เคียงกันที่สุด เพราะคุณสมบัติการเก็บไฟที่ไม่เท่ากันจากการเสื่อมของแผ่น(sulfating)จะเกิดการชาร์ทเต็มไม่พร้อมกัน เวลาดับเครื่องไฟตัวเต็มก็จะดึงไปชาร์ทตัวแผ่นเสื่อมดึงแรงดันตกทั้ง2ลูก
3.แบตต้องไม่มีการลัดวงจรภายในทั้ง2ลูก ไปเช็คload testที่ร้านแบตก่อนถ้าไม่มีเครื่องมือเอง อาการจะเหมือนข้อ2.

ที่ทำได้เพราะเหตุดังนี้ กฎข้อเดียวที่ต้องจำ(ให้นึกภาพถังน้ำ2ถังมีส่วนสูงเท่ากันและระดับถังตั้งสูงเท่ากัน(=แรงดัน)แต่ลูกนึงเล็กกว่า(=ความจุ)ต่อท่อเข้า-ออกมารวมกันเป็นท่อเดียวที่ก้นถัง)

1.แบตที่ต่อขนานกันจะจ่ายพลังงานและรับการชาร์ทกลับในสัดส่วนตาม%ความจุเท่ากับปริมาณการใช้รวม ดูรูปที่3-4-5 Link นี้http://www.cdtechno.com/pdf/ref/41_7952_0112.pdf

ข้อแนะนำจากการใช้งานจริงจากlinkข้างต้น

1.อัตราส่วนความจุต่อแบตไม่ควรเกิน 1:5 เข่น 20:100 A-Hr
2.ควรมีswitchและมีอุปกรณ์ป้องกันแยกแต่ละวงจรออกจากกันได้ ดูรูปที่6
3.เพื่อให้แน่ใจว่าแบตจะถูกดึงไฟตามอัตราส่วน%ความจุคือหมดพร้อมกัน(เหมือนถังน้ำ2ถังมีส่วนสูงเท่ากันและระดับถังตั้งสูงเท่ากัน) แต่ละวงจรต้องมีแรงดันไฟตกเท่ากันที่จุดจ่ายไฟปลายทาง ควรเช็คไฟปลายทางถ้าแยกสายต่อแล้วใช้ขนาดสายที่เหมาะสม (สายเล็กไปแรงดันตกมากกว่า)