จำนวนถาม : จำนวนตอบ : รวมทั้งหมด : 0 |
|
ข้อความเลขที่ : 7
เหตุที่วัสดุวาวล์ควรเปลี่ยนหรือไม่ขึ้นกับการแปลงแรงม้าเครื่องที่เพิ่มขึ้นกว่าปกติ เช่นการเพิ่ม boost turbo, การเพิ่มรอบเครื่อง, การเพิ่มเชื้อเพลิง เราต้องการวาวล์ที่มีคุณสมบัติดังนี้
1.เบา เพราะลักษณะการเคลื่อนที่แบบ reciprocating ขึ้นลงเช่นเดียวกับลูกสูบซึ่งมีอัตราเร่งสูงสุดที่ปลายสุด2ด้านของช่วงการเคลื่อนที่(บน-ล่าง) มวลมาก=แรงกระทำมาก สปริงวาวล์พังเร็วและอาจกระพือ(valve spring surge)
2.ทนอุณหภูมิสูงที่เพิ่มจากการเพิ่มแรงม้า โดยเฉพาะไอเสียที่อุณหภูมิอาจสูงต่อเนื่องได้ถึง 650-790องศาc ไอดีที่อุณหภูมิต่อเนื่องที่426-540องศาcเพราะมีอากาศและชพช่วยลดอุณหภูมิ
3.วัสดุคงความแข็งทีอุณหภูมิข้างต้นได้
4.วัสดุต้านทานการผุกร่อนทีอุณหภูมิข้างต้นได้
ทีนี้ดูlow alloy carbon steelก่อนซึ่งมีโครงสร้างโลหะวิทยาทั่วไป2แบบคือ austenitic และ martensiticที่ได้จากการชุบแข็งausteniticโดยการทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว martensitic จะแข็งกว่าแต่เปราะ(35 to 55 Rockwell C ที่อุณหภูมิห้อง)แม่เหล็กดูดติดและขึ้นสนิมได้ง่ายกว่าaustenitic martensiticจะนิยมทำอบชุบแบบ tempering ต่อเพื่อลดปัญหานี้ แต่หากอุณหภูมิ>540องศาc martensitic จะเสียความแข็งและกำลังวัสดุจึงนิยมกับด้านไอดีเท่านั้น วัสดุเหล่านี้ที่ทำไอดีมักเป็น 8440 alloyที่มีchromium หรือ "Silchrome 1" (Sil 1)ที่มีchromium 8.5%
ส่วนไอเสียมักใช้ austenitic stainless ที่มีchromium >10% เบอร์ที่นิยมใช้คือ 21-2N (chromium21% nickel2%) และ 21-4N(chromium21% nicke4%) โดยกรรมวิธีพิเศษทางความร้อนหลายขั้นตอนถึงแม้จะไม่แข็งเท่าmartensitic stainlessที่อุณหภูมิห้องแต่กลับดีกว่าที่อุณหภูมิสูง หรือวัสดุของเยอรมัน DIN 1.4882
Super alloy ไอเสียมักใช้ Nimonic 80A
ส่วน Titanium มีดีที่เบาสุดและทนอุณหภูมิสูงสุดกว่าที่กล่าวมาทั้งหมด มักเป็น Ti-6242 หรือ Ti-834
ดูค่าคุณสมบัติวัสดุได้ที่ตารางข้างบน
คำถามคือเราจะmodifyถึงขั้นนั้นหรือว่าแสตนดาดที่ใช้อยู่ก็พอแล้ว?
|
|