webmaster | Posted : 2 / 3 / 2015, 17:54:19 | |
|
จำนวนถาม : จำนวนตอบ : รวมทั้งหมด : 0 |
|
ข้อความเลขที่ : 4 เรื่องที่ 3
ป่าไม้ในอดีต คือ แหล่งรวมพลังงานธรรมชาติ ที่มีวงจรชีวิตที่สมดุล มีการล่า พร้อมการเกิด มีไฟป่าเพื่อผลัดหญ้าระบัด มีน้ำป่าเพื่อ
ชำระล้าง อย่างพอสมควร แต่ ... ป่า ณ ปัจจุบัน เป็นแหล่งทำมาหากินของสิ่งที่เรียกว่า... มนุษย์ ทั้งการล่าอย่างบ้าเลือด เพื่อสนอง
อารมณ์หรือเพื่อการค้า ตายมากกว่าเกิด เผาป่าเพื่อล่าและเพื่อจับจองผืนดินที่ไม่ใช่ของตัวเอง ไม่มีแหล่งหญ้าระบัด ไม่มียอดอ่อน
ต้นไม้ มีแต่สิ่งปลูกสร้าง และเรือกสวนไร่นาที่คนทึกทักว่าเป็นของตัวเอง มีน้ำป่าที่ไหลบ่ามามากกว่าที่เคย เพราะกำแพงต้นไม้ที่
เคยต้านความแรงของน้ำที่ไหลบ่าลงมาให้ลดลงนั้นได้หายไป เพื่อเป็นสินค้าและสิ่งปลูกสร้าง สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีแหล่ง
หากิน ต้นไม้ใหญ่น้อยก็โดนจับจอง ลำธารน้ำใสเป็นทำเลก่อสร้างให้มนุษย์มาพักผ่อนหย่อนใจ ไม่เว้นแม้แต่ชายหาดและทะเล ที่มี
ร่มและกระชังเป็นกรรมสิทธิ์ ประการังกลายเป็นของที่ระลึก ปลาทะเลกลายเป็นปลาตู้ มีขวดแก้วและขยะนานาชนิดเป็นองค์
ประกอบของหาดทราย เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปก่อให้เกิด ??ธรรมชาติวิบัติ??
ธรรมชาติวิบัติ ภาษามนุษย์ เรียกว่า ภัยพิบัติ มนุษย์ส่วนใหญ่ กล่าวโทษธรรมชาติ เมื่อเกิดไฟป่า ว่า อากาศร้อน ความแห้งแล้ง แต่
ความเป็นจริง ไฟป่าตามธรรมชาติเกิดได้ยากมาก เพราะป่ามีความชื้น นอกจากหน้าแล้ง แต่ทุกวันนี้ ที่เกิดบ่อยครั้ง บ้างจุดไฟเผา
ไร่ บ้างจุดไฟล่าสัตว์ บ้างทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับ บ้างก่อกองไฟทิ้งไว้ จึงเป็นเหตุให้เกิดไฟป่าขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนน้ำป่า เมื่อถึงหน้าน้ำ
หรือหน้าฝน น้ำบนเขามักเอ่อล้น แต่ถ้ามี สิ่งกีดขวางอย่างต้นไม้ใหญ่ ก็จะบรรเทาความแรงและเร็วของน้ำได้ แต่... ตอนนี้ สิ่ง
กีดขวางเหล่านั้น คือ บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง เรือกสวนไร่นา นั่นหมายความว่า การทำลายล้างได้มาถึงแล้ว สัตว์ป่าบุกเข้าทำลาย
บ้านเรือน และพืชที่ปลูกไว้ มีใครบ้างไหม ที่คิดว่า เค้าคงหิว เรามาแย่งที่เค้าหรือไม่ ... ไม่เลย... ทุกคนคิดว่าเป็นความ
เกกมะเหรกเกเร เป็นสัตว์ร้ายที่ควรกำจัด แต่หารู้ไม่ว่า เค้ามาทวงของๆ เค้าคืน แต่การแสดงตัวเป็นเจ้าของถิ่น หรือการมาเพื่อ
ปากท้อง จะนำมาซึ่ง ความตายของสัตว์ป่าเหล่านั้น ท้องทะเลที่แสนจะสงบ กลับกลายเป็นความโกลาหลของความโลภ แม้กระทั่ง
น้ำลายนกนางแอ่น ปะการังเก็บมาทำของที่ระลึก ปลาดาวมาเป็นที่ทับกระดาษ เปลือกหอยเป็นของฝาก ทรายอยู่ในขวดโหล ขยะ
ลอยโต้คลื่นอยู่ในทะเล พร้อมที่จะเป็นอาหารให้สัตว์น้ำที่ชะตาขาด เมื่อการทำลายมีปริมาณมากกว่าการเกิด จึงเกิด ?กาลวิบัติ?
เมื่อถึง ?กาลวิบัติ? มนุษย์บางคนเริ่มมีจิตใต้สำนึกของธรรมชาติก่อเกิดขึ้นมา จากคำที่ว่า ?ธรรมชาติลงโทษ? รู้ว่า...อะไรเกิดจาก
ธรรมชาติ รู้ว่า...อะไรผิดธรรมชาติ จึงได้เริ่มรณรงค์ สร้างจิตสำนึกให้เห็นคุณค่าของธรรมชาติ ให้สำนึกบุญคุณของธรรมชาติ ให้รู้
ผิดชอบชั่วดี แต่ก็แค่ส่วนน้อย เพราะไม่มีใครโทษตัวเองหรอกจริงมั้ย.... การฟื้นฟู การเยียวยาให้ธรรมชาติคงอยู่ ต้องเริ่มจาก
มนุษย์ที่อาศัยธรรมชาติอยู่อาศัย ให้รู้ถึงความสำคัญของธรรมชาติ การอยู่ร่วมกัน โดยไม่เบียดเบียนกัน ใช้สมองและสองมือช่วย
ดูแลและหวงแหน เมื่อผู้อาศัยหวงแหนถิ่นอาศัย การทำลายล้างก็จะยากขึ้น เราไม่อาจขัดขวางผู้ทำลายได้ แต่เราสร้างสำนึกให้รุ่น
ลูกรุ่นหลานให้รักธรรมชาติ ไม่สร้างไม่เป็นไร แต่อย่าทำลาย เมื่อไม่มีการทำลาย ก็จะไม่ต้องฟื้นฟู เพราะธรรมชาติจะเยียวยาด้วย
ตัวของเค้าเอง.... ?การรณรงค์ให้ปลุกป่า ทำประการังเทียม หรือจะมีค่ากว่าการไม่ทำลาย?
|
|
| |
Board : vision13 | |